ลูกสาวผวาแม่แอบซ่อนกล้อง ในห้องนอนอ้างห่วงลูกไม่อ่านหนังสือ
หน้าแรกTeeNee แม่จ๋าและลูกน้อย เคล็ดลับวิธีเลี้ยงลูก ลูกสาวผวาแม่แอบซ่อนกล้อง ในห้องนอนอ้างห่วงลูกไม่อ่านหนังสือ
คนเป็นพ่อเป็นแม่ ห่วงเกินไประวังทำร้ายจิตใจลูกไม่รู้ตัวอย่างเช่นเคสนี้ที่ได้รับความสนใจอย่างมากในโลกโซเชียล หลังลูกสาว เล่าประสบการณ์เพิ่งรู้ตัวโดนคนเป็นแม่ซ่อนกล้องวงจรปิดจับตาดูลูกทุกย่างก้าวในห้องนอน พร้อมอ้างเหตุผลของการกระทำว่าเป็นห่วงกลัวลูกไม่อ่านหนังสือ
โดยลูกสาวรายนี้เล่าผ่านโซเชียลว่า
ไม่นึกว่าจะมีวันนี้เกิดขึ้น เรานอนเล่นโทรศัพท์อยู่ในห้องบนเตียงตาเหลือบไปเหนสายที่โผล่ออกมาจากโต๊ะวางของ สรุปมันคือกล้องวงจรปิดค่ะ และคนติดไม่ใช่ใครเป็นแม่เราเองค่ะ เราเหนแล้วแพนิคมาก privacyอะไรหายไปหมด (1)
ที่น่าตกใจคือกล้องหันมาทางเตียงที่เรานอน และตู้เสื้อผ้าพอดี เราเลยรีบดึงปลั๊กออกแล้วส่งข้อความไปหาแม่ทันที ปกติเราหวงพท.ส่วนตัวมากๆไม่ค่อยให้ใครเข้ามายกเว้นแม่กับแม่บ้านซึ่งข้อหลังไม่น่าใช่เพราะเค้าแค่มาหยิบตะกร้าผ้าแล้วไป (2)
เราตกใจมากแบบมันสั่นไปหมดอ่ะ ไม่รู้ว่าติดตั้งแต่เมื่อไหร่ ตอนไหน นั่งดูกล้องมานานยัง ติดไปทำไมนู่นนี่ บลาๆ เราก็อีกไม่นานจะ18แล้วอ่ะก็ถือว่าโตระดับนึงละ การกระทำแบบนี้มันเข้าข่ายคุกคามเลยนะเว้ย (3)
อยากฝากไว้ว่าพ่อแม่ควรจะตระหนักถึงprivacyเปนเรื่องสำคัญเลยนะคะ มันทำให้คนๆนึงที่มารู้ทีหลังรู้สึกแย่ขนาดไหน ถ้าเราคุยกับแม่ได้แล้วเราจะมาอัปเดตสาเหตุจากปากเค้าอีกทีค่ะ (จบ)
และอีกเธรด ระบุว่า
เมื่อประมาณช่วงเย็นเรานอนปิดไฟเล่นโทรศัพท์อยู่ที่เตียง เหนไฟแว้บๆกับสายเล็กๆโผล่ออกมาจากชั้นวางของ พอเดินไปใกล้ๆก็เหนว่าเปนกล้องวงจรปิดตามรูปที่แนบเลยค่ะ ถ้าไม่สังเกตจะไม่เหนเลยนะ เพราะแจกันพลูด่างในรูปบังอยู่เกือบมิด (1)
เราตกใจมากแล้วที่บ้านฝนตกหนักไฟดับไปประมาณสองชั่วโมง ตอนนั้นแบบมือสั่นไปหมดเพราะช่วงนี้มีแม่เราคนเดียวที่เข้าห้องเราก็สงสัยว่าเราทำไรผิดเค้าถึงจับตาเรา เราตื่นสายหรอ เราเกรดไม่ดีรึเปล่า เราแอบอู้มานอนเรียนตอนออนไลน์หรอฯลฯ (2)
พอไฟมาเราได้ยินเสียงติ้ดๆซึ่งมีคนหลังไมค์มาว่าเปนเสียงกล้อง เรารีบส่งข้อความไปหาแม่แล้วถามว่าเอากล้องมาติดเมื่อไหร่ติดทำไม เราก็คุยกับแม่ด้วยอารมณ์เย็นสุดๆขอเหตุผลอ่ะนะ แม่ตอบในโทรฯและพิมในไลน์มาว่า...ซึ่งมันไม่ค่อยจะเมคเซนซ์เลย ปล.ตอนนั้นเราเจอกล้องแค่อันเดียวนะ (3)
มีประโยคนึงซึ่งติดอยู่ในหัวเราถึงตอนนี้คือ"บ้านอื่นเค้าติดกล้องดูลูกกันแบบนี้ทั้งนั้นไม่เหนจะแปลกอะไรเลย" เราตกใจมากอ่ะไม่คิดว่าคำพูดนี้จะหลุดออกมาจากปากคนเป็นแม่ แม่เราค่อนข้างperfectionist บวกกับanxietyขั้นรุนแรง เค้าเคยขู่ติดกล้องมาหลายครั้งแล้ว (4)
เราก็เบลอไปพักใหญ่เลยเพราะเค้าแสดงออกถึงความเป็นห่วงและกังวลอย่างรุนแรง เราพยายามเห็นอกเห็นใจเข้าใจเค้ามาตลอดเลยนะแต่ครั้งนี้เราไม่ได้จริงๆ จนกระทั่งเราไปตรงที่ติดกล้องอันแรกอีกครั้งเหนสายอ้อมโต๊ะวางของมาตัวสายคือวางไว้เนียนมาก เราค่อยๆอ้อมสายจนเจอกับกล้องตัวที่2 (5)
มันถูกติดด้วยกาวสองหน้าไว้สักพักละ เพราะตอนเราดึงออกคือค่อนข้างเหนียวเลย แล้วแนบไปกับสีโต๊ะด้วยนะ ถ้าไม่สังเกตคือไม่เหนอ่ะ กล้องหันไปทางโต๊ะอ่านหนังสือพอดีเป๊ะ กล้องทั้งสองตัวคือดูแบบliveคือเชื่อมแอปแล้วเปิดดู (6)
เรากับแม่ไม่ค่อยถูกกันค่ะ แบบทัศนคติความคิดอะไรค่อนข้างต่างกัน เค้าจะมีกรอบเป๊ะๆที่เราต้องปฏิบัติตาม เราก็ไม่ค่อยโอเคแหละค่ะแต่ก็ต้องทำ เหมือนส่วนลึกๆของเค้าๆมองเราเปนผลงานอ่ะ ต้องดีต้องเก่งนู่นนี่ เค้าถึงกระทั่งหลุดปากพูดออกมาว่า"เหนหน้าแม่บ้างสิ คนอื่นจะคิดยังไง" (7)
เราถูกเลี้ยงมาให้เรียนตั้งแต่เด็กค่ะ แม่เราดันให้เข้ารร.ประถมประจำจังหวัด พอจบประถมก็ให้เข้าโรงเรียนมัธยมชื่อดังของภาค พอจบม.3ก็ให้ไปสอบรร.มัธยมปลายที่เคลมว่าเปนอันดับ1ของประเทศ เราต้องทำเพราะเค้าขู่ตลอดตั้งแต่ประถมว่าต้องติดๆไม่งั้นแม่จะตัดขาดไม่เลี้ยง (8)
เรามีแม่คนเดียวค่ะ คุณพ่อเสียไปหลายปีแล้วญาติๆก็ไม่สนิทหรือแทบไม่ยุ่งด้วย เรารักแม่มากนะยอมทำทุกอย่างอ่ะ ขีดจำกัดเราหมดลงจนเริ่มทำร้ายตัวเองเพราะไม่สามารถรับรู้อารมณ์ในขณะนั้นๆได้ตอนนี้ยังรักษาอยู่นะ ดีขึ้นมาแล้วด้วยแต่วันนี้คือแตกสลายจริงๆ (9)
เรามานึกๆดูถึงมุมกล้องทั้งสองตัวที่อันนี้ชี้ไปที่เตียงอีกอันไปที่โต๊ะอนส.แม่กลัวเราไม่อ่านหนังสือค่ะ ไม่ใช้เวลาว่างทบทวนที่เรียน ไม่นานมานี้เค้ายื่นคำขาดกับเราว่าต้องสอบติดหมอคณะtop3ของปท ไม่ต้องเรียนก็ได้แล้วเค้าจะปล่อยเราไป (10)
มาคิดดูคือปย.พ่อแม่รังแกฉันคือไม่เกินจริงนะ อยากให้ตระหนักถึงprivacyกันจริงๆบวกกับnormalizedการไปพบจิตแพทย์เถอะค่ะ แม่เราไปพบไปคุยจนช่วงนึงเคยดีขึ้นแล้ว ไว้แค่นี้ก่อนค่ะ เหนื่อยมากๆเลย (จบ)
ทั้งนี้เจ้าของทวิตยังเผยข้อความแชตที่เธอส่งไปถามคุณแม่ว่า เอากล้องมาติดไว้ทำไม
ซึ่งคุณแม่ตอบกลับมาว่า
"แม่ขอโทษที่ทำแบบนี้ แม่เป็นห่วงกลัวนอนลืมเรียน นอนตี4 นอนไม่หลับ"
ซึ่งคุณแม่ตอบกลับมาว่า
"แม่ขอโทษที่ทำแบบนี้ แม่เป็นห่วงกลัวนอนลืมเรียน นอนตี4 นอนไม่หลับ"
ซึ่งหลังเรื่องราวของเธอกลายเป็นที่พูดถึงและถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักบนโลกโซเซียล ทั้งยังมีชาวเน็ตบางส่วนได้ออกมาเล่าเรื่องราวในลักษณะเดียวกันที่เคยเจอเช่นเดียวกัน
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น