ลูกไม่สบายบ่อย มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือเปล่า
ลูกไม่สบายบ่อย อาจเป็นเพราะภูมิคุ้มกันบกพร่อง
ลูกไม่สบายบ่อย อาจะเกิดจากระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง เนื่องจากว่าระบบภูมิคุ้มกันร่างกายมีหน้าที่ค้นหา และโจมตีเชื้อโรคต่างๆ ที่จะเข้ามาสู่ร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา ระบบภูมิคุ้มกันประกอบไปด้วยเซลล์เม็ดเลือดขาวหลายชนิด และเซลล์เม็ดเลือดขาวแต่ละชนิดต่างก็มีหน้าที่เฉพาะตัวยกตัวอย่างเช่น ลิมโฟไซต์ที่จะต่อสู้กับเชื้อไวรัสต่าง ๆ ทีลิมโฟไซต์บางตัว สามารถฆ่าเซลล์อื่น ๆ ที่ติดเชื้อไวรัสได้ โทรฟิลมีความสำคัญในการต่อสู้กับเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อรา บีลิมโฟไซต์ทำหน้าที่สร้างแอนตี้บอดี เป็นต้น เซลล์เม็ดเลือดขาวทำงานร่วมกันเป็นระบบเพื่อต่อสู้กับการติดเชื้อทุกชนิด เพราะฉะนั้นภูมิคุ้มกันจึงเป็นระบบต้องทำงานร่วมกันอย่างสมบูรณ์ หากมีปัญหาในส่วนใดส่วนหนึ่งของระบบ อาจทำให้การติดเชื้อเล็กน้อย กลายเป็นร้ายแรงได้นั่นเอง
ภูมิคุ้มกันบกพร่อง เกิดจากอะไร
โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือ (PIDDs) ทำให้ลูกไม่สบายบ่อย ระบบภูมิคุ้มกันร่างกายอ่อนแอลง ทำให้เกิดการติดเชื้อต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น เด็กหลายคนมีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องหลัง เกิดขาดการป้องกันของร่างกายบางส่วน ระบบ ภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ ทำให้เด็กไวต่อการติดเชื้อโรค โดยนักวิจัยได้ระบุความผิดปกติของภูมิคุ้มกันมีมากหลายร้อยชนิด ซึ่งบางรูปแบบก็ไม่ได้รุนแรงอะไรจนไม่สามารถสังเกตเห็นได้ แต่บางชนิดสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพ ทำให้ลูกไม่สบายบ่อย ภูมิคุ้มกันบกพร่อง สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกันตั้งแต่แรกเกิด ระบบภูมิคุ้มกันของเด็กที่ป่วยเป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง จะทำงานไม่ถูกต้อง และไม่สามารถต่อสู้กับการติดเชื้อได้ เนื่องจากปัญหาในเซลล์เม็ดเลือดขาวเช่น T Lymphocytes หรือ B Lymphocytes ระบบภูมิคุ้มกันบกพร่องเกิดจากพันธุกรรม และการสัมผัสสิ่งแวดล้อม เชื่อโรคต่าง ๆ เมื่อระบบภูมิคุ้มกันบกพร่องจึงทำให้เด็กป่วยเร็วขึ้น และนานขึ้น โรคภูมิคุ้มกันไม่เป็นอันตรายถึงขั้นชีวิต แต่เด็กควรได้รับการวินิจฉัย และรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อไม่ให้เป็นอันตรายต่อเด็กจนถึงชีวิต
อาการของโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง
ถึงแม้ว่าโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องทางพันธุกรรมตั้งแต่แรกเกิดนั้น บางรายอาจจะไม่แสดงอาการ จนกว่าจะอายุหลายเดือน และจะเกิดการติดเชื้อบ่อย ลูกไม่สบายบ่อย อาการรุนแรงผิดปกติ บ่อยครั้งที่อาจเป็นหวัดธรรมดาและนำไปสู่การติดเชื้อแบคทีเรียที่รุนแรงอย่างเช่นอาการปอดบวม หลอดลมอักเสบ ไซนัส เป็นต้น โดยสัญญาณที่บ่งบอกอาการของโรค ภูมคุ้มกันบกพร่อง มักจะแสดงอาการดังต่อไปนี้
การติดเชื้อมากกว่า 4 ครั้งขึ้นไปในหนึ่งปีไม่ว่าจะเป็นการติดเชื้อทางผิวหนัง เยื่อบุตา ทางปาก และบริเวณอวัยวะเพศด้วย
การติดเชื้อตั้งแต่ 2 ชนิดขึ้นไปอย่างเช่น ภาวะโลหิตเป็นพิษ
การติดเชื้อราในปาก
ติดเชื้อไซนัสที่รุนแรงตั้งแต่ 2 ครั้งขึ้นไปในหนึ่งปี
ปอดบวมตั้งแต่ 2 ครั้งขึ้นไปในหนึ่งปี
มีแผลเปื่อยที่รุนแรง
มีการติดเชื้อบริเวณผิวหนังที่รุนแรง
มีปัญหาระบบย่อยอาหารที่เรื้อรัง
การติดเชื้ออวัยวะภายในอย่างเช่น ตับ
ม้ามโต
วิธีการดูแลรักษา
หากลูกมีภาวการณ์ติดเชื้อง่าย ลูกไม่สบายบ่อยที่เกิดจากภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง แพทย์จะทำการรักษาด้วยหลายวิธีตามความเหมาะสม เพื่อสนับสนุน และปรับปรุงการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันเด็กเช่น
การรักษาโดยการฉีดแกมมาโกลบูลิน (IgG) ขั้นตอนที่เสริมระบบภูมิคุ้มกันให้กับเด็ก ด้วยแอนติบอดีเพิ่มเติม
รักษาโดยการใช้ยาปฏิชีวนะ ยาที่กำหนดเป้าหมายไปที่การติดเชื้อเฉพาะ หรือทำหน้าที่เป็นการป้องกัน
ในกรณีที่ติดเชื้อที่รุนแรง ผู้ป่วยอาจต้องใช้ยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือดดำ
PIDDs บางชนิด อาจได้รับการรักษาโดยการใช้ยาที่ทดแทน ปัจจัยภูมิคุ้มกันโดยเฉพาะที่ขาดหายไป หรือช่วยให้เซลล์เม็ดเลือดขาวที่มีข้อบกพร่องทำงานได้ดีขึ้น
แนวทางการป้องกันภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง เพื่อไม่ให้ลูกไม่สบายบ่อย นอกเหนือจากการปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ สำหรับการดูแลแบบประคับประคองแล้ว ยังมีขั้นตอนที่คุณแม่และคนในครอบครัวสามารถทำได้ เพื่อป้องกันการเกิดภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง ในเด็กได้เช่น การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ รวมถึงการหลีกเลี่ยงอาหารดิบ และอาหารสุกที่อาจปนเปื้อนกับเชื้อแบคทีเรีย รวมถึงน้ำดื่มที่ไม่สะอาดเพียงพอ และควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้ที่มีเชื้อ และการปฏิบัติตามหลักสุขอนามัยส่วนบุคคลที่ดี จะช่วยให้บุตรหลานมีสุขภาพที่ดี ห่างไกลภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง
และนี่คืออาการของโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องที่เกิดขึ้นในเด็ก ลูกไม่สบายบ่อยคุณแม่ควรหมั่นสังเกต หากมีอาการดังกล่าวมาข้างต้นนี้ ให้สงสัยไว้เลยว่าลูกอาจมีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง เพราะเมื่อภูมิคุ้มกันบกพร่องจะทำให้ป่วยง่ายขึ้น และนานขึ้น อยากห่างไกลจากภาวะดังกล่าว คุณแม่จะต้องหมั่นดูแลสุขภาพของลูก ให้ลูกทานอาหารที่มีประโยชน์ ทานอาหารที่สะอาดถูกหลักสุขอนามัย จะทำให้ห่างไกลจากภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องได้
เครดิตแหล่งข้อมูล :maerakluke
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!