วิธีใช้ปรอทวัดไข้ คุณแม่ต้องรู้ ใช้ให้ถูก

วิธีใช้ปรอทวัดไข้ที่ถูกต้อง
หลายคนอาจจะเคยใช้ปรอทวัดไข้กันเป็นประจำอยู่แล้ว แต่คุณรู้หรือไม่ว่าวิธีที่เราทำอยู่นั้นถูกต้องหรือไม่ มาดูกันว่าวิธีใช้ปรอทวัดไข้ที่ถูกต้องจริง ๆ นั้นเป็นอย่างไร

ก่อนวัดไข้ควรเตรียมตัวให้พร้อมก่อน โดยหลีกเลี่ยงกิจกรรมบางอย่าง หรืออาจรอให้เวลาผ่านไปซักพักแล้วค่อยวัด เพราะอาจมีผลทำให้อุณหภูมิสูงขึ้นได้ ซึ่งผลที่ออกมานั้นอาจผิดเพี้ยนหรือไม่มีความแม่นยำ เช่น ไม่ควรวัดไข้ทันทีหลังทานอาหาร หรือเครื่องดื่ม ควรทิ้งระยะห่างก่อนวัดไข้ประมาณ 30 นาที หรือหลังจากอาบน้ำอุ่นควรรอประมาณ 1 ชั่วโมง จึงวัดไข้

การอ่านผล โดยปกติของอุณหภูมิร่างกายจะอยู่ที่ระหว่าง 5-37.2 องศาเซลเซียส แต่โดยเฉลี่ยแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 37 องศาเซลเซียส ในส่วนของเด็กที่มีอายุมากกว่า 6 เดือน อาจมีอุณหภูมิปกติต่างกันเล็กน้อยประมาณ 1-2 องศาเซลเซียส ของอุณหภูมิปกติของร่างกาย
วัดอุณหภูมิได้เท่าไหร่ แสดงลูกว่ากำลังป่วย

อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่าโดยปกติอุณหภูมิของร่างกายคนเรานั้นจะอยู่ที่ประมาณ 37 องศาเซลเซียส เพราะฉะนั้นเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณแม่วัดไข้ด้วยปรอทวัดไข้ แล้วแสดงอุณหภูมิที่ 38 องศาเซลเซียสขึ้นไป นั่นกำลังบ่งบอกว่าลูกของคุณแม่กำลังป่วย นอกจากคุณแม่จะวัดไข้ด้วย วิธีใช้ปรอทวัดไข้ แล้วผลที่วัดออกนั้นอาจจะไม่คงที่ เพราะฉะนั้นจึงควรดูอาการอื่น ๆ ควบคู่กันไปด้วย เพื่อการดูแลที่ถูกต้องและเหมาะสมที่สำคัญคือ ควรระวังดูและอย่างใกล้ชิดเมื่อลูกมีไข้สูง เพราะอาจเสี่ยงต่อการชักได้นั่นเอง

วิธีเก็บรักษาปรอทวัดไข้หลังใช้งาน
สำหรับการเก็บรักษาปรอทวัดไข้หากเป็นแบบหลอดแก้วนั้น หลังจากการใช้งานเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้นำไปล้างด้วยน้ำสบู่จนสะอาด จากนั้นเช็ดให้แห้งแล้วเก็บไว้ในอุณหภูมิปกติ สิ่งสำคัญที่สุดคือควรหลีกเลี่ยงจากแสงแดด และเก็บไว้ให้ไกลมือเด็กและสัตว์เลี้ยง ในส่วนของปรอทวัดไข้รูปแบบอื่น ๆ ก็มีการเก็บรักษาในลักษณะเดียวกัน คือหลังจากที่ใช้งานเรียบร้อยแล้วควรทำความสะอาดให้เรียบร้อย จากนั้นเก็บใส่กล่องให้ดี เพื่อให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน และเพื่อประสิทธิภาพในการใช้งานที่แม่นยำอีกด้วย

ปรอทวัดไข้เด็ก มีกี่แบบ เลือกใช้แบบไหนดี
วิธีใช้ปรอทวัดไข้ ให้ถูกต้อง และมีความแม่นยำมากที่สุด ก่อนอื่นจะต้องดูว่าปรอทวัดไข้ที่เราเลือกใช้นั้นเป็นปรอทวัดไข้รูปแบบไหน เนื่องจากปัจจุบันมีปรอทวัดไข้หลายแบบให้เลือกใช้เยอะมาก ซึ่งเยอะจนทำให้หลายคนมีความเข้าใจผิดว่าปรอทวัดไข้ มี วิธีใช้ปรอทวัดไข้ เช่นเดียวกันทั้งหมด คือ การนำมาหนีบที่รักแร้ เพราะก่อนที่เราจะนำปรอทวัดไข้มาใช้อย่างถูกต้องจะต้องศึกษาให้ดีก่อนว่าปรอทวัดไข้มีกี่แบบ ควรเลือกใช้แบบไหน และแต่ละแบบมี วิธีใช้ปรอทวัดไข้ อย่างไรให้ถูกต้อง โดยเราสามารถแยกปรอทวัดไข้ได้ดังนี้

1.ปรอทแก้ว หรือ ปรอทวัดไข้แบบธรรมดา
การใช้ปรอทไว้ไข้แบบหลอดแก้ว สามารถวัดได้ 2 ทางคือ ทางรักแร้ และทางปาก

การวัดทางรักแร้ ควรดูให้แน่ใจว่าเทอร์โมมิเตอร์ไม่ยื่นไปด้านหลังมากเกินไป ระหว่างวัดไข้รออย่างน้อย 4 นาที จนกว่าปรอทจะหยุดนิ่ง

การวัดทางปาก ควรตรวจดูให้แน่ใจก่อนว่าไม่มีเศษอาหาร ลูกอม หรือขนมในปาก ก่อนวัดปรอทควรอยู่ต่ำกว่า 36 องศาเซลเซียส หากสูงกว่าให้สะบัดก่อนเล็กน้อยเพื่อให้สารปรอทลดลงมาก่อนทุกครั้ง

2.ปรอทวัดไข้ทางทวารหนัก

เป็นปรอทวัดไข้ที่เหมาะสำหรับเด็กเล็กวัยแรกเกิด ถึง 4 ขวบ แต่ควรใช้อย่างระมัดระวัง หรืออยู่ในการดูแลของผู้เชี่ยวชาญ

วิธีใช้คือ ทาวาสลีนที่กระเปาะเพื่อการหล่อลื่น ค่อย ๆ สอดปรอทเข้าทวารหนัก ลึกประมาณ 1.25 -2.5 เซนติเมตร รอประมาณ 2 นาที แล้วค่อยดึงออก

3.ปรอทวัดไข้แบบดิจิตอล
ปรอทวัดไข้ดิจิตอล เป็นปรอทวัดไข้ที่นิยมใช้มากที่สุด เนื่องจากสามารถใช้งานได้ง่าย โดยการใช้งานสามารถวัดได้ทั้งทางปากและทางรักแร้ เมื่อวัดเสร็จระบบจะแจ้งเตือนพร้อมการแสดงผลเป็นตัวเลข

4.ปรอทวัดไข้แบบอินฟาเรด
เป็นปรอทวัดไข้สำหรับวัดทางหู หน้าผาก เหมาะสำหรับเด็กเล็กวัย 3 ขวบขึ้นไป โดยวิธีใช้ปรอทวัดไข้ ให้เริ่มจากการดึงใบหูเบา ๆ เพื่อให้เครื่องอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม วัดซ้ำ 2 - 3 ครั้งเพื่อหาค่าเฉลี่ยของอุณหภูมิที่แม่นยำ

ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับปรอทวัดไข้ที่เรานำมาฝาก ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีหลากหลายแบบให้เลือกใช้ตามความเหมาะสม แต่หากเป็นการใช้งานในบ้านโดยปกติทั่วไปไม่ว่าจะเป็นเด็กเล็กหรือ ผู้ใหญ่แนะนำให้เลือกใช้เป็นปรอทวัดไข้แบบดิจิตอลจะดีกว่า เนื่องจากสามารถใช้งานได้ง่าย หากซื้อได้ตามร้านขายยาโดยทั่วไป และค่อนข้างที่จะมีความแม่นยำ แต่สิ่งสำคัญคือควรเลือกใช้ปรอทวัดไข้ที่คุณภาพที่สุด

เครดิตแหล่งข้อมูล : maerakluke