ลูกเลือดกำเดาไหล ทำอย่างไร? กำเดาไหลแบบไหนต้องหาหมอ

ลูกเลือดกำเดาไหล ทำอย่างไร? กำเดาไหลแบบไหนต้องหาหมอ


การมีเลือดไหลออกจากร่างกายคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ โดยเฉพาะเลือดที่ไหลออกจากจมูกเด็ก ๆ ในบ้านของคุณ หรือที่เราเรียกกันว่า เลือดกำเดา ถึงแม้ว่าอาการเลือดกำเดาไหลจะเกิดขึ้นได้บ่อย ๆ และ ไม่ร้ายแรงอะไร แต่คุณควรสังเกตอาการและเรียนรู้วิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนที่จะทำการส่งลูกไปโรงพยาบาล

การปฐมพยาบาลเบื่อต้นสำหรับเด็กที่มีอาการเลือดกำเดาไหล

1.อย่าจับหัวลูกแหงนขึ้นเพราะเลือดอาจไหลลงคอ ทำให้สำลัก หรือ อาเจียนได้

2.อย่าจับลูกนอนราบ ให้นอนหนุนหมอน ระดับหัวต้องอยู่สูงกว่าระดับหัวใจ

3.ให้ลูกนั่งตัวตรง และบีบจมูกเพื่อปิดการไหลของเลือดไว้ประมาณ 5-10 นาที ให้ลูกหายใจทางปากแทน

4.ใช้ผ้าชุบน้ำแข็งประคบ ความเย็นจะทำให้เลือดหยุดไหล ห้ามใส่อะไรเข้าไปในจมูก ไม่ต้องพยายามใช้อะไรเข้าไปในจมูกเพื่อเช็ดเลือดให้ออก

5.อย่าให้สั่งน้ำมูก หรือเลือดออกมาแรง ๆ เพราะจะทำให้เยื้อบุในโพรงจมูกอักเสบ และจะทำให้เกิดเลือดกำเดาอีก
ปกติแล้วอาการเลือดกำเดาไหลจะเกิดขึ้นได้ง่าย ๆ กับเด็กอายุ 2-10 ปี
แต่ถ้าลูกมีอาการแบบนี้บ่อย หรือมีอาการแนวโน้มดังต่อไปนี้ ต้องรีบพาลูกไปหาหมอทันทีค่ะ

1.มีเลือดกำเดาไหลก่อนอายุ 2 ขวบ

2.มีเลือดกำเดาไหลเกินกว่า 20 นาที

3.มีเลือดกำเดาไหลหลังจากโดยกระแทก หรือ มีอุบัติเหตุที่รุนแรงเกิดขึ้น

4.มีเลือดกำเดาไหลออกมามากกว่าปกติ กว่าที่ควรจะเป็น

5.ถ้าลูกกลืนเลือดกำเดาเข้าไปมาก จนมีอาการอาเจียน

6.ถ้าเลือดกำเดาไหล และ มีอาการอื่น ๆ ด้วย เช่นมีเลือดออกตามไรฟัน เหงือก หรือ ผื่นขึ้นตามตัว อาจเกิดจากอาการไข้เลือดออก

สาเหตุที่ทำให้เกิดเลือดกำเดาไหล
จมูกเป็นส่วนที่บอบบาง และ มีเนื้อเยื้ออ่อน ทำให้เกิดความเสียหายและมีเลือดออกค่อนข้างง่าย โดยเฉพาะช่วงที่มีอากาศแห้ง หรือ โดนกระแทก โดนชน อุณหภูมิเปลี่ยนเร็วอย่างเฉียบพลัน ร้อนเกินไป เย็นเกินไป หรือสั่งน้ำมูกแรงเกินไปนั่นเอง

เครดิตแหล่งข้อมูล : แม่รักลูก

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
ตามข่าวteenee.com จาก LineToday เข้าไปคลิ๊กกดติดตามได้เลย
กระทู้เด็ดน่าแชร์