ภูมิแพ้จมูกในเด็กแสนร้าย รักษาได้ด้วยคลื่นวิทยุ RF
ปัจจุบัน โรคภูมิแพ้จมูกหรือโพรงจมูกอักเสบเรื้อรังในเด็กนั้นพบได้บ่อยขึ้น สาเหตุส่วนใหญ่มักเกิดจากพันธุกรรม โดยหากพ่อหรือแม่คนใดคนหนึ่งเป็นภูมิแพ้ ลูกจะมีโอกาสเป็นภูมิแพ้ประมาณ 30% แต่หากพ่อและแม่เป็นภูมิแพ้ทั้งคู่ ลูกก็จะมีโอกาสเป็นภูมิแพ้ได้มากราว 50% และยิ่งประกอบกับสภาวะสิ่งแวดล้อมที่มีมลพิษรุนแรงขึ้น มีฝุ่นมากขึ้น จึงยิ่งทำให้เด็กๆ เสี่ยงกับอันตรายของการถูกภูมิแพ้จมูกเล่นงานได้ง่ายมากขึ้น ซึ่งเป็นหน้าที่ของคุณพ่อคุณแม่โดยตรงที่ควรหมั่นสังเกตอาการและดูแลลูกน้อยอย่างใกล้ชิด
อาการภูมิแพ้จมูกในเด็กเป็นอย่างไร รุนแรงมากน้อยแค่ไหน
โดยส่วนใหญ่แล้วภูมิแพ้ในเด็กมักจะมาด้วยอาการ "จาม คัน แน่น มีน้ำมูก หายใจฟุดฟิด" ซึ่งถือว่าเป็นอาการเบื้องต้นที่อาจไม่รุนแรงเท่าไร แต่ก็ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ เพราะหากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องอาการก็จะรุนขึ้นได้ เช่น หายใจไม่ออก แน่นจมูกมาก น้ำมูกตันจนต้องหายใจทางปาก และอาจทำให้มีอาการนอนกรน และนานวันไปจะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคไซนัสอักเสบ จมูกบวม จนอาจลุกลามกลายเป็นริดสีดวงจมูกได้
รักษาอย่างไร เมื่อลูกเป็นภูมิแพ้จมูกในเด็ก
โรคภูมิแพ้จมูกในเด็ก มีแนวทางการรักษาหลักๆ ได้แก่ การหลีกเลี่ยงฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้ ซึ่งจะทราบได้ก็ต่อเมื่อทำการทดสอบด้วยการเจาะเลือดตรวจ หรือทำ Skin Test จากนั้นจะเป็นการรักษาโดยใช้ยา ซึ่งการใช้ยารักษานั้น ก็มีทั้งยารับประทานและยาพ่น หรือบางรายอาจรักษาด้วยวิธีภูมิคุ้มกันบำบัด หรือ Immunotherapy ซึ่งผลการรักษาจะมีประสิทธิภาพมากน้อยเพียงใดก็ขึ้นอยู่กับอาการและความรุนแรงของโรคในคนไข้เด็กแต่ละราย
คลื่นวิทยุ RF ทางเลือกที่ดีกว่าของการรักษาภูมิแพ้จมูกในเด็ก
ผู้ป่วยเด็กจำนวนมาก แม้จะเข้ารับการรักษาภูมิแพ้จมูกด้วยวิธีการทานยา พ่นยา ร่วมกับหลีกเลี่ยงสารก่อภูมิแพ้แล้วแต่อาการก็ยังไม่ดีขึ้น ในปัจจุบันจึงมีการพัฒนาเครื่องมือแพทย์ที่นำไปสู่อีกทางเลือกการรักษาที่ให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า นั่นก็คือ การจี้จมูกคลื่นวิทยุ RF หรือ Radio Frequency ซึ่งเป็นคลื่นวิทยุที่มีความร้อนน้อย เพียง 40 องศาเซลเซียส ทำให้เนื้อเยื่อจมูกบริเวณที่ทำการจี้คลื่นรักษาเกิดการหดตัว สามารถลดอาการ จาม คัน แน่นจมูก มีน้ำมูก โดยลดได้มากสุดถึง 80% การจี้จมูกด้วยคลื่นวิทยุนี้ทำภายใต้การใช้ยาชาเฉพาะที่หรือดมยาในผู้ป่วยเด็กเล็กได้ รักษาเสร็จแล้วกลับบ้านได้ทันที หรือนอนพักดูอาการเพียงแค่ 1 คืนเท่านั้น โดยขั้นตอนในการผ่าตัดรักษาโรคภูมิแพ้จมูกในเด็กด้วยคลื่นวิทยุ RF มีรายละเอียดดังนี้
-แพทย์พิจารณาใช้ยาชาเฉพาะที่ หรือดมยาสลบ โดยขึ้นอยู่กับอายุของผู้ป่วยเด็ก และการให้ความร่วมมือของเด็ก
-ใช้เครื่องมือปล่อยคลื่นวิทยุที่มีลักษณะเป็นเข็มเล็กๆ ทิ่มเข้าไปในบริเวณจมูกที่บวมโดยผ่านการส่องกล้อง
-คลื่นวิทยุรักษาประมาณ 6-10 วินาที ซึ่งคลื่นวิทยุนี้ จะทำให้เยื่อในโพรงจมูกฝ่อลง เกิดพังผืด ต่อมสร้างน้ำมูกและเนื้อเยื่อที่บวมก็จะฝ่อยุบลงตามไปด้วย จึงสามารถลดอาการ จาม คัน แน่น น้ำมูกตันลงได้มากถึง 80% ซึ่งจะเห็นผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจนภายใน 1-2 สัปดาห์
-ระหว่างจี้คลื่นวิทยุผ่าตัดรักษา จะมีการล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ เพื่อให้สะเก็ดเลือดและน้ำเหลืองหลุดร่อนออกมาจากโพรงจมูก
-รวมระยะเวลาในการรักษา ประมาณ 5-10 นาที เสร็จแล้วกลับบ้านได้ทันทีถ้าเป็นเด็กโต แต่หากเป็นเป็นเด็กเล็กมากๆ ที่ทำภายใต้การดมยาเฉพาะที่ อาจจะดูอาการหลังผ่าตัดรักษาประมาณ 2 ชั่วโมงก่อนจึงค่อยกลับบ้าน หรือให้นอนพักฟื้นที่ รพ. 1 คืน จึงค่อยกลับบ้าน
-ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น อาจมีอาการปวดตึง รู้สึกร้าวบริเวณโพรงจมูก หรือใบหน้า อาจจะมีเลือดออกซึมได้หลังผ่าตัดรักษาประมาณ 2-3 วัน แต่ไม่เป็นอันตราย ส่วนมากหลังผ่าตัดสามาถใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่มีข้อควรระวังคือ อย่าจาม อย่าสั่งน้ำมูกแรงๆ และหลีกเลี่ยงการแคะจมูกแรงๆ
ส่วนการผ่าตัดรักษาด้วยคลื่นวิทยุ RF จะทำให้มีอาการดีขึ้นอยู่ได้ประมาณ 3-5 ปี ช่วยลดอาการ จาม คัน แน่น น้ำมูกตัน หายใจไม่ออกได้มากถึง 80% อย่างไรก็ตาม หากไม่ดูแลตัวเองให้ดี ไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ ไม่หลีกเลี่ยงฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้ ไม่สบาย เป็นหวัดบ่อยๆ ก็จะทำให้คุณภาพของการรักษาลดลง อาการภูมิแพ้ต่างๆ ก็อาจกลับมาเป็นซ้ำได้เร็วขึ้น
เครดิตแหล่งข้อมูล : phyathai