การสแกนดูทารกในครรภ์แนวใหม่ ที่ให้คุณพ่อคุณแม่ได้เห็นถึงรูปร่างลักษณะของทารกในครรภ์อย่างชัดเจนกว่าการอัลตร้าซาวด์ ด้วยเครื่อง MRI ซึ่งผลที่ได้ช่วยให้เห็นโครงสร้างของทารกส่วนต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน ตรวจดูได้ว่าอวัยวะแต่ละส่วนของทารกมีความสมบูรณ์แค่ไหน ทารกกำลังทำอะไรอยู่ กำลังใช้เท้าถีบท้องคุณแม่ กำลังจับสายสะดือเล่น หรือ ดูดกลืนน้ำคร่ำอยู่ ก็สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน
การพัฒนาเทคนิคการตรวจของเครื่อง MRI รุ่นใหม่ที่ใช้ดูเด็กทารกในครรภ์คุณแม่ ส่วนมากจะใช้ได้ตอนอายุครรภ์ 20 สัปดาห์เป็นต้นไป การตรวจด้วยเครื่อง MRI จะมีความว่องไวในเรื่องการหาความผิดปกติของสุขภาพทารก เนื่องจากได้ภาพที่ชี้จุดชัดเจน ภาพไม่สั่นไหว
การตรวจทารกด้วยเครื่อง MRI (Magnetic Resonance Imaging) จะมีผลสำคัญมากกับการตรวจความผิดปกติบางอย่างของทารก เช่น การตรวจหาความผิดปกติของสมองส่วน posterior fossa และการตรวจหาความผิดปกติของทารกในครรภ์ที่มีความซับซ้อน ผลที่ได้จะช่วยให้คุณหมอหาแนวทางรักษาทารกได้ตั้งแต่ทารกอยู่ในครรภ์ หรือ แนวทางการคลอดบุตรให้กับคุณแม่ได้
ในคลิปวีดีโอสั้น ๆ นี้จะเห็นการเคลื่อนไหวของทารกในครรภ์แม่อย่างชัดเจน การใช้เทคโนโลยี MRI แบบใหม่นี้ Dr. David Lloyd แห่งลอนดอน ผู้คิดวิธีการสแกนแบบใหม่นี้กล่าวว่า การดูเด็กทารกจากวิธีนี้จะเห็นหัวใจ สมอง และอวัยวะสำคัญหลายอย่างชัดเจนกว่าการอัลตร้าซาวด์ หลายเท่า
โดยปกติแล้วการตรวจ MRI จะตรวจตอนคุณแม่ตั้งครรภ์ประมาณ 2-3 ไตรมาสขึ้นไป เพราะในการตรวจในไตรมาสแรกอวัยวะของทารกยังเล็ก เสี่ยงกับการได้รับคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ามากเกินไป และเนื่องจากทารกตัวเล็กทำให้เห็นถึงความผิดปกติไม่ชัดเจน
การตรวจ MRI นี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีสำหรับคุณแม่มาก ๆ เพราะนอกจากจะสามารถดูความผิดปกติของทารกในครรภ์แล้ว ถ้าคุณแม่มีความผิดปกติจากภายใน ก็จะเห็นได้อย่างชัดเจน
อย่างไรก็ดีการแสกนดูทารกในครรภ์ด้วยเครื่อง MRI แบบใหม่นี้ยังอยู่ในช่วงพัฒนาโครงการอยู่