1.พักผ่อนให้มากที่สุด
คุณแม่ควรพักผ่อนให้มากในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังคลอด โดยควรนอนพักผ่อนกลางคืนให้ได้ 6-8 ชั่วโมง ส่วนหลังอาหารกลางวันก็ควรหาเวลาพักผ่อนให้ได้ประมาณ 30 นาที และภายใน 6 สัปดาห์หลังคลอดนี้คุณแม่ไม่ควรหยิบจับหรือยกสิ่งของหนักใดเลยทั้งสิ้น เพราะเป็นช่วงที่กล้ามเนื้อและมดลูกต้องกลับคืนสู่สภาพปกติ หากคุณแม่พักผ่อนน้อยหรือยกสิ่งของหนักก็อาจกระทบกระเทือนถึงอวัยวะภายในอุ้งเชิงกรานมดลูกได้
2.รับประทานอาหารที่ย่อยง่ายและมีประโยชน์
ในช่วงที่ร่างกายคุณแม่กำลังฟื้นตัวคุณแม่ควรรับประทานอาหารจำพวกเนื้อ นม ไข่ ผักและผลไม้สด งดอาหารที่มีรสจัด ของหมักดองทุกชนิด และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ควรดื่มน้ำเปล่าให้มากๆ เพื่อป้องกันอาการท้องผูก
3.รักษาความสะอาดของร่างกาย
คุณแม่สามารถอาบน้ำชำระล้างร่างกายได้ตั้งแต่ 12-14 ชั่วโมงหลังคลอด หมั่นเปลี่ยนเสื้อผ้าที่สวมใส่เพราะหลังคลอดคุณแม่มักมีเหงื่อออกง่าย สำหรับคุณแม่ที่มีน้ำนมออกมาแล้วแนะนำให้เปลี่ยนเสื้อชั้นในบ่อยๆ หรืออาจใช้แผ่นซับน้ำนมก็สามารถช่วยได้เช่นกันค่ะ นอกจากนี้คุณแม่ควรคำนึงถึงการรักษาความสะอาดอวัยวะเพศให้เป็นอย่างดีทุกครั้งหลังการขับถ่าย เพราะในช่วงหลังคลอด น้ำคาวปลาจะถูกขับออกมาเยอะ ทุกครั้งที่คุณแม่ขับถ่ายเสร็จแล้วจึงควรทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นและหมั่นเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเข้าสู่มดลูกจนอาจก่อให้เกิดอาการอักเสบติดเชื้อได้
4.หมั่นดูแลเต้านมและหัวนมให้สะอาดเสมอ
ทุกครั้งที่คุณแม่อาบน้ำควรทำความสะอาดหัวนมอยู่เสมอ สำหรับก่อนให้นมลูกคุณแม่ควรใช้สำลีชุบน้ำอุ่นเช็ดบริเวณเต้านมและรอบหัวนมให้สะอาด หลังจากให้นมลูกเสร็จแล้วคุณแม่ก็เช็ดหรือล้างทำความสะอาดอีกรอบค่ะ ในระหว่างที่คุณแม่ให้นมลูกถ้าหากหัวนมอักเสบหรือมีปัญหาจนไม่สามารถให้นมลูกได้ คุณแม่ควรรีบไปพบแพทย์นะคะ
5.ดูแลแผลฝีเย็บหรือแผลผ่าตัด
ไม่ว่าคุณแม่จะคลอดด้วยวิธีธรรมชาติหรือผ่าคลอดก็ตาม การดูแลแผลหลังคลอดเป็นสิ่งสำคัญ คุณแม่ควรเน้นใส่ใจในเรื่องความสะอาดเพราะหากแผลติดเชื้อจากสิ่งสกปรกแล้วจะยิ่งทำให้แผลหายช้ามากขึ้น
6.งดมีเพศสัมพันธ์เป็นเวลาอย่างน้อย 6 สัปดาห์
สำหรับคุณแม่ที่คลอดโดยธรรมชาติ ควรงดการมีสัมพันธ์อย่างน้อย 6 สัปดาห์ เพื่อป้องกันการติดเชื้อและการฉีกขาดของแผล
7.หยุดกังวลกับประจำเดือนที่อาจมาช้า
คุณแม่ส่วนใหญ่ที่ไม่ได้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ประจำเดือนจะมาภายใน 5-6 สัปดาห์หลังคลอด ส่วนคุณแม่ที่ให้นมลูกประจำเดือนจะมาช้ากว่านั้นค่ะ ดังนั้น หากประจำเดือนมาช้าก็ไม่ใช่เรื่องผิดปกติแต่อย่างใด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ต่อให้ประจำเดือนยังไม่มาคุณแม่ก็มีสิทธิ์ตั้งครรภ์ได้ปกติเช่นกัน หากไม่ได้คุมกำเนิดอย่างถูกต้อง
8.หลังคลอด 1 เดือนควรพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย
โดยส่วนใหญ่หลังจากคุณแม่คลอดบุตรได้ 1 เดือนแล้ว คุณหมอจะนัดให้ไปตรวจร่างกายอีกครั้งเพื่อเช็คดูอวัยวะภายในของคุณแม่ว่ากลับคืนสู่สภาพปกติหรือยัง และเพื่อตรวจหามะเร็งปากมดลูกกับมะเร็งเต้านมไปพร้อมกันด้วยค่ะ อีกทั้งคุณหมอยังให้คำแนะนำด้านการคุมกำเนิดในหลังจากระยะนี้ต่อไปด้วย
9.ออกกำลังกายฟื้นฟูสุขภาพ
คุณแม่สามารถออกกำลังกายเบาๆ ในช่วงหลังคลอด 6 สัปดาห์เป็นต้นไป ช่วงแรกอาจจะเป็นการเดินหรือทำงานบ้านเบาๆ ไปก่อน การออกกำลังกายจำเป็นอย่างมากเพื่อช่วยในการฟื้นฟูกล้ามเนื้อและอวัยวะภายในให้กลับคืนสู่สภาพปกติได้รวดเร็วขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดน้ำหนักให้หุ่นกลับมาเพรียวกระชับสำหรับคุณแม่หลังคลอดได้เป็นอย่างดี
10.อาการหลังคลอดที่ควรพบแพทย์
เมื่อมีอาการผิดปกติหลังคลอด คุณแม่ไม่ควรนิ่งเฉยนะคะ เพราะบางอาการที่คิดว่าอาจแค่ป่วยธรรมดา แต่แท้จริง อาจไม่ธรรมดาก็เป็นได้ เพราะช่วงหลังคลอด ร่างกายเรายังอ่อนแออยู่ ดังนั้น มีโอกาสเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเจ็บป่วยต่างๆ ขึ้นได้เสมอ มาดูกันนะคะว่าอาการเหล่านี้มีอะไรบ้าง
- มีไข้ หนาวสั่น
- น้ำคาวปลามีความผิดปกติ เช่น มีกลิ่นเหม็นคาวมาก น้ำคาวปลาไม่เดิน หรือมีเลือดไหลออกมาสดๆ
- เต้านมบวมช้ำ อักเสบ หรือมีแผลที่เต้านม
- ปวดท้องน้อย ปัสสาวะบ่อยผิดปกติ หรือมีอาการขัดเบา
ด้วยภาระหน้าที่ของคุณแม่หลังคลอดที่ต้องมาพร้อมความรับผิดชอบต่อชีวิตน้อยๆ ของคุณมากขึ้น ดังนั้น จงอย่าปล่อยให้สุขภาพเจ็บป่วยหรือเสื่อมโทรมในหลังจากคลอดเลยนะคะ เพื่อชีวิตทารกน้อยๆ ที่คุณจะต้องดูแลอย่างดีที่สุด ดังนั้นแล้ว หากคุณแม่ไม่ได้ใส่ใจดูแลสุขภาพตั้งแต่เนิ่นๆ วันหนึ่งข้างหน้าคุณอาจจะต้องเจ็บป่วยและอาจปกป้องดูแลคนที่คุณรักได้อย่างไม่เต็มที่ก็เป็นได้