วางแผนการเงินก่อนคลอดลูก

วางแผนการเงินก่อนคลอดลูก

การมีลูกสักคนต้องมีรายจ่ายค่อนข้างมากจนมีคำเปรียบเปรยว่ามีลูกหนึ่งคนจนไป 10 ปี ดังนั้นก่อนที่จะมีบุตรคู่สามีและภรรยาต้องมานั่งวางแผนทางการเงินให้เรียบร้อยก่อน เพราะต่อจากนี้ไปจะต้องใช้เงินและเวลามากขึ้นในการที่จะดูแล กว่าที่เด็กจะเติบโตจนสามารถพึ่งพาตัวเองได้บ้าง ค่าใช้จ่ายตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์จนถึงหลังคลอด ทั้งค่าอาหาร เสื้อผ้า สิ่งของเครื่องใช้ รวมถึงเงินสำรองฉุกเฉินที่ต้องเตรียมไว้ในกรณีเจ็บป่วย สิ่งเหล่านี้ขอให้พ่อแม่มือใหม่ต้องคิดและเตรียมตัวให้พร้อม 

การเตรียมเงินสำหรับการคลอด ค่าใช้จ่ายในการคลอด พ่อแม่อาจทราบล่วงหน้าจากโรงพยาบาลที่ฝากครรภ์ จึงสามารถวางแผนการใช้เงินได้คร่าวๆ ว่าต้องเสียค่าใช้จ่ายอย่างไรบ้าง แนะนำให้เผื่อวงเงินไว้ที่อัตราสูงสุดที่โรงพยาบาลตั้งไว้ เพราะเมื่อถึงเวลาอาจไม่สามารถคลอดเอง แต่ต้องผ่าคลอด ซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่ต่างกัน

     วางแผนค่าใช้จ่ายก่อนคลอด

เมื่อรู้ว่าตั้งครรภ์ คุณแม่จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากค่าใช้จ่ายปกติ สำหรับค่าฝาก และตรวจครรภ์ ค่าอัลตราซาวด์ ค่าบำรุงครรภ์ ค่าอาหารเสริม เป็นต้นยิ่งช่วงใกล้คลอดประมาณเดือนที่ 8-9 คุณหมอจะนัดตรวจบ่อยขึ้น เกือบทุกสัปดาห์ ค่าใช้จ่ายก็จะมากเป็นพิเศษดังนั้น คุณแม่ควรเตรียมเงินสำรองไว้ใช้จ่ายจากค่าใช้จ่ายปกติอีกเฉลี่ยเดือนละประมาณ 4,000-6,000 บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละกรณีด้วย หากเกิดกรณีไม่ปกติ เช่น ภาวะโรคแทรกซ้อน ค่าใช้จ่ายก็อาจจะเพิ่มขึ้นได้

     วางแผนค่าใช้จ่ายสำหรับคลอด

ถือเป็นเงินก้อนใหญ่อีกก้อนที่ต้องเตรียมไว้ ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าจะยิ่งช่วงใกล้คลอดประมาณเดือนที่ 8-9 คุณหมอจะนัดตรวจบ่อยขึ้น เกือบทุกสัปดาห์ ค่าใช้จ่ายก็จะมากเป็นพิเศษ ถ้าคุณพร้อมที่จะคลอดแบบธรรมชาติ ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยจะตกอยู่ที่ 40,000 – 50,000 บาท ส่วนการผ่าคลอดจะอยู่ที่ 50,000 – 70,000 บาท หรือถ้ามีเหตุพิเศษใดๆ ค่าใช้จ่ายอาจกลายเป็นหลักแสนได้

     วางแผนค่าใช้จ่ายหลังคลอด

สำหรับคุณแม่ที่ทำงานประจำ จะมีสิทธิลาคลอดได้ 90 วัน โดยนายจ้างต้องจ่ายเงินเดือนให้อย่างน้อย 45 วัน แต่เนื่องจากยังคงต้องมีค่าใช้จ่ายต่างๆ หลังคลอดที่ต้องเตรียมไว้อีก ไม่ว่าจะเป็นค่าวัคซีน นมผง เสื้อผ้า ของใช้เด็ก รวมถึงค่าตรวจสุขภาพหลังคลอดของคุณแม่เอง รวมๆ แล้วต้องใช้เงินอีกไม่น้อยเลยทีเดียว ดังนั้นต้องเตรียมเงินสำรองส่วนนี้ไว้ด้วย

นอกจากนี้เรื่องเวลาที่เราจะสามารถทุ่มเทให้ลูกในการเลี้ยงดูก็เป็นเรื่องสำคัญมากๆ พ่อแม่ มือใหม่หลายคู่ไม่ได้เตรียมตัวไว้ก่อน เมื่อมีลูกก็ไม่มีเวลาที่จะเลี้ยง ปล่อยให้เป็นภาระของญาติ หรือจ้างพี่เลี้ยงมาเลี้ยงแทน สิ่งเหล่านี้จะทำให้เขาเกิดมาโดยที่ไม่ได้รับความรักและความอบอุ่นอย่างที่ควร รวมไปถึงพัฒนาการในด้านต่างๆ ที่ควรจะได้รับการกระตุ้นจากพ่อแม่ ทำให้เด็กอาจจะมีพัฒนาการที่ช้ากว่า และมีสุขภาพจิตที่แย่กว่าเด็กที่ครอบครัวมีเวลาให้กันและกัน  ขอเป็นกำลังใจให้ทุกครอบครัว รู้จักวางแผนเพื่ออนาคตที่ดีของลูกนะคะ

 


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์