การผ่าคลอดลูก

การผ่าคลอดลูก

ปัจจุบันนี้คุณแม่หลายคนเลือกใช้วิธี การผ่าคลอด ซึ่งเพิ่มสูงขึ้นหลายเท่าเมื่อเทียบกับ 30-40 ปีก่อน ด้วยเหตุผลที่อยากจะเลือกคลอดแบบผ่าเองและเหตุผลที่การคลอดแบบธรรมชาติจะเป็นอันตรายกับแม่ และ/หรือลูก การผ่าคลอดเป็นวิธีคลอดลูกที่นิยมมากขึ้น คาดว่าเนื่องจากคุณแม่สามารถเลือกวัน เวลา และการใช้ยาสลบที่ต้องการได้ อีกทั้งยังสามารถกลับบ้านได้ในวันสองวันหลังคลอดได้เลย ถ้าคุณหมอเห็นว่าคุณแม่ฟื้นตัวเร็ว

     ประโยชน์และความเสี่ยงในการผ่าตัดคลอดฯ มีอะไรบ้าง

ทารกมีโอกาสที่จะมีภาวะหายใจเร็วชั่วคราวในทารกแรกเกิดนอกจากนี้ในผู้ที่คลอดบุตรโดยการผ่าตัดคลอดฯนั้น จะมีโอกาสเสียเลือดขณะผ่าตัดมากกว่าการคลอดบุตรทางช่องคลอดเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนที่เกิดจากการใช้ยาดมสลบหรือการฉีดยาชาเข้าช่องไขสันหลัง เช่น การสำลัก ก่อการติดเชื้อในปอด และต้องอยู่โรงพยาบาลประมาณ 3 วันซึ่งนานกว่าการคลอดบุตรทางช่องคลอด มีความเสี่ยงอื่นๆเหมือนเช่นการผ่าตัดทั่วๆไป เช่นแผลผ่าตัดติดเชื้อ, การเกิดอันตรายฉีกขาดต่ออวัยวะข้างเคียง (เช่น ลำไส้) ขณะที่กำลังทำการผ่าตัด

     เตรียมตัวก่อนผ่าตัดคลอดฯอย่างไร?

เมื่อคุณแม่ตัดสินใจที่จะผ่าตัดคลอด แพทย์จะแนะนำให้คุณแม่งดน้ำและอาหารเป็นเวลาอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมงก่อนทำการผ่าตัด และจะได้รับการให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ ผู้ที่จะเข้ารับการผ่าตัดคลอดจะได้รับการทำความสะอาด และโกนขนบริเวณหน้าท้องและ/หรือ หัวหน่าวแล้วแต่กรณี, สวนถ่ายอุจจาระ, และใส่สายสวนปัสสาวะก่อนจะทำการผ่าตัด โดยทั่วไปแล้ว การผ่าตัดคลอดนั้นจะสูญเสียเลือดประมาณ 400 มิลลิลิตร คร่าวๆคือประมาณน้ำดื่มหนึ่งขวดขนาดกลาง แต่ในบางครั้งอาจมีการสูญเสียเลือดมากกว่าหนึ่งลิตร ซึ่งพบได้ในผู้ที่รับการผ่าตัดคลอด 4-8 รายจากทั้งหมด 100 ราย ดังนั้นหากตัดสินใจที่จะผ่าตัดคลอด สูติแพทย์จะแนะนำให้คุณตรวจเลือดเพื่อประเมินว่าคุณมีภาวะซีดหรือไม่ เพื่อการแก้ไขรักษาก่อนการผ่าตัด และทำการส่งเลือดตัวอย่างของคุณไปวิเคราะห์ เพื่อจองเลือดสำรองไว้ใช้ในยามจำเป็นที่จะต้องให้เลือดฉุกเฉิน

     มีการดูแลหลังผ่าตัดคลอดฯอย่างไร?

หลังจากผ่าคลอดได้ 1 วัน คุณหมอจะให้คุณแม่ลุกขยับตัว เดิน แม้จะเจ็บแผลมากก็ต้องฝืนนะคะ หากไม่ยอมเคลื่อนไหวเลย ก็จะทำให้เกิดพังผืดขึ้นซึ่งจะไปเกาะยึดติดอวัยวะภายในช่องท้อง ทำให้เสี่ยงกับภาวะท่อนำไข่อุดตัน หรือการผ่าตัดคลอดบุตรคนต่อไปทำได้ยาก หรือท้องผูกเรื้อรังในอนาคต คุณแม่สามารถใช้ผ้ารัดหน้าท้องหลังคลอดเพื่อช่วยพยุงกล้ามเนื้อส่วนหลังเวลาเดินได้ อีกทั้งยังช่วยลดความเจ็บปวดจากแผลผ่าคลอดได้เช่นกัน ในช่วงแรกๆ คุณหมอจะปิดแผลผ่าคลอดด้วยพลาสเตอร์กันน้ำไว้ให้ค่ะ คุณแม่ไม่ต้องไปทำอะไรเลย ไม่ต้องล้างแผลหรือเปิดแผลดูนะคะ อาบน้ำได้ตามปกติ ข้อดีของการผ่าท้องคลอดนอกจากความปลอดภัยของคุณแม่กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง หรือไม่สามารถคลอดเองได้ด้วยเหตุผลต่างๆ ก็มีเพียงการเลือกฤกษ์งามยามดีในการคลอดได้เท่านั้น นอกเหนือไปจากนี้ การผ่าท้องคลอด ทำให้คุณแม่ต้องเสียเลือดมากกว่าการคลอดธรรมชาติถึง 2 เท่า และมีโอกาสติดเชื้อมากกว่า รวมทั้งมีโอกาสที่กระเพาะปัสสาวะหรือลำไส้ได้รับบาดเจ็บจากการผ่าคลอดได้ แม้ว่าขณะคลอดคุณแม่แทบจะไม่รู้สึกอะไร แต่หลังจากคลอดเสร็จแล้วคุณแม่จะรู้สึกเจ็บแผล และมีอาการอ่อนเพลียมาก บางรายอาจเจ็บแผลจนไม่สามารถอุ้มลูกได้หลังจากออกจากโรงพยาบาลแล้วคุณแม่บางรายอาจมีอาการปวดท้องน้อยเรื้อรัง เพราะพังผืดที่เกิดขึ้นภายหลังการผ่าตัดคลอด เนื่องจากมีการขัดติดกันของมดลูกกับกระเพาะปัสสาวะ หรือลำไส้ บางครั้งพังผืดที่เกิดขึ้นทำให้มดลูก และปีกมดลูกยึดแน่นตึงส่งผลให้มีอาการปวดประจำเดือนหรือเจ็บปวดขณะมีเพศสัมพันธ์ได้

สำหรับคุณแม่ที่ตั้งใจจะเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ การผ่าท้องคลอดอาจเป็นอุปสรรคประการหนึ่งเพราะคุณแม่อาจอ่อนเพลียจากการเสียเลือดมากหรือเจ็บแผลจนอุ้มให้นมลูกไม่ไหว ดังนั้น จึงควรวางแผนการคลอดและการให้นมลูกอย่างดี อาจปรึกษาแพทย์ที่ดูแลครรภ์แต่เนิ่นๆ หากเป็นไปได้ควรให้นมลูกทันทีหลังคลอด


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์