ปวดจิมิตอนใกล้คลอด เช็กสิ! ผิดปกติไหม?

ปวดจิมิตอนใกล้คลอด อาการที่คุณแม่หลายคนต้องเจอ

อาการปวดจิมิตอนใกล้คลอดเป็นหนึ่งอาการที่สามารถพบได้ในคุณแม่เกือบทุกท่านกันเลย ทั้งนี้ก็เนื่องจากในช่วงใกล้คลอดนี้เป็นช่วงที่ลูกน้อยในครรภ์มีความพร้อมที่จะคลอดออกมาลืมตาสู่โลกภายนอก ลูกน้อยจึงมีการกลับหัวเพื่อให้อยู่ในท่าเตรียมพร้อมสำหรับการคลอด และกล้ามเนื้อบริเวณมดลูกของคุณแม่ก็จะมีความบางลง และมีการขยายตัวเพิ่มมากขึ้นเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการคลอดของลูกน้อยเช่นกันจึงนำมาซึ่งอาการปวดจิมิได้

อาการปวดจิมิตอนใกล้คลอด ผิดปกติหรือไม่
อย่างที่กล่าวไปข้างต้นแล้วว่าอาการปวดจิมิตอนใกล้คลอดเป็นหนึ่งในอาการที่สามารถเกิดขึ้นได้กับคุณแม่ตั้งครรภ์ทุกท่าน เมื่อเกิดอาการดังกล่าวขึ้นตัวคุณแม่เองรวมถึงบุคคลรอบข้างคุณแม่ต้องไม่ตระหนกจนเกินไป แต่ก็ต้องไม่ปล่อยปละละเลยจนเกินไป ในส่วนนี้ต้องหมั่นสังเกตและดูว่ามีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วยหรือไม่ หากมีเพียงอาการปวดจิมิตอนใกล้คลอดเท่านั้น และมีอาการดังกล่าวเป็นช่วง ๆ ไม่ได้เกิดขึ้นตลอดเวลาก็แทบไม่ต้องกังวลไป แต่หากอาการปวดจิมินี้เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง หรือมีอาการมูกเลือดร่วมด้วยจัดเป็นหนึ่งในอาการที่ผิดปกติคุณแม่ต้องรีบปรึกษาแพทย์ทันที

อาการปวดแบบไหนที่ควรพบหมอ

ถัดมาเราก็ขอพาคุณแม่ทุกท่านไปพบกับอาการปวดจิมิตอนใกล้คลอดที่น่ากังวล หากเกิดอาการปวดนี้ขึ้น คุณแม่ต้องรีบแจ้งแก่คนรอบข้างหรือรีบปรึกษาแพทย์ที่คุณแม่ทำการฝากครรภ์ทันที โดยอาการเหล่านั้นก็คือ

*คุณแม่มีอาการปวดจิมิที่ถี่ เกิดขึ้นบ่อยและเกิดขึ้นแต่ละครั้งนานมาก เพราะอาจเกิดจากความผิดปกติของการรัดตัวของมดลูกได้ รวมถึงอาจเสี่ยงในการเกิดภาวะการคลอดก่อนกำหนดในคุณแม่ได้อีกด้วย

*คุณแม่มีอาการตกขาว หรือ มูกเลือดร่วมด้วย ซึ่งเป็นการแสดงถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นที่นับเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าคุณแม่ต้องรีบไปพบและปรึกษาแพทย์ทันที

ทำอย่างไรเมื่อมีอาการปวดจิมิบ่อยๆ
อาการปวดจิมิตอนใกล้คลอดเป็นอาการที่สามารถเกิดขึ้นได้กับคุณแม่ทุกท่านก็จริง แต่ก็คงนำมาซึ่งความไม่สบายตัวแก่คุณแม่ได้ไม่น้อยกันเลย เราจึงได้รวบรวมวิธีที่ช่วยบรรเทาอาการปวดจิมิของคุณแม่ ดังนี้

1.เมื่ออาการปวดจิมิเกิดในช่วงที่คุณแม่กำลังออกกำลังกาย หรือ กำลังเดิน ให้คุณแม่หยุดทำกิจกรรมดังกล่าวแล้วนั่งเพื่อลดการหดเกร็งที่เกิดขึ้นบริเวณปากมดลูก ซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการปวดจิมิที่เกิดขึ้นได้

2.เมื่ออาการปวดจิมิเกิดในช่วงที่คุณแม่อยู่ในอิริยาบถใดอิริยาบถหนึ่งนานเกินไป ให้คุณแม่ทำการเปลี่ยนอิริยาบถแต่ต้องค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นขั้นตอน หากคุณแม่นอนหงายเป็นเวลานานแล้วเกิดอาการปวดจิมิขึ้นก็ให้คุณแม่ค่อย ๆ ทำการเปลี่ยนอิริยาบถจากท่านอนหงายเป็นท่านอนตะแคงแล้วนอนในท่าดังกล่าวสักพักเพื่อให้อาการปวดจิมิบรรเทาลง

3.เมื่ออาการปวดจิมิเกิดมากจนคุณแม่ทนไม่ไหว คุณแม่สามารถปรึกษาแพทย์ ซึ่งแพทย์อาจจะให้คุณแม่ทานยาพาราเซตามอลซึ่งสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดจิมิของคุณแม่ได้ แต่คุณแม่ก็ไม่ควรทานยาพาราเซตามอลติดต่อกันเป็นเวลานานจนเกินไป หรือ ทานยาพาราเซตามอลในทุกครั้งที่มีอาการปวดจิมิเพราะการทานยาพาราเซตามอลของคุณแม่ติดต่อกันเป็นเวลานานอาจส่งผลต่อการตั้งครรภ์ ทั้งส่งผลต่อตัวคุณแม่เองที่ตับต้องทำงานหนักจากการทานยา หรือ อาจจะมีผลไปถึงลูกน้อยในครรภ์ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากคุณแม่และลูกน้อยยังมีสายสะดือหรือสายสัมพันธ์ที่เชื่อมกันอยู่นั่นเอง

จากบทความข้างต้น คุณแม่หลายท่านที่กำลังประสบกับอาการปวดจิมิตอนใกล้คลอด คงจะคลายกังวลได้บ้าง หรือ คงจะสามารถแยกออกได้บ้าง ว่าอาการปวดจิมิแบบใดที่คุณแม่ไม่ต้องกังวลใจมาก หรือ อาการปวดจิมิใดที่คุณแม่ต้องรีบแจ้งแก่คนรอบข้างหรือปรึกษาแพทย์ เพื่อป้องกันความผิดปกติหรืออันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับคุณแม่ รวมถึงลูกน้อยในครรภ์ได้ ดังนั้นทุก ๆ การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับคุณแม่ จึงล้วนเป็นสัญญาณที่ช่วยบ่งบอกถึงความพร้อมในการคลอด รวมถึงยังสามารถบอกถึงความแข็งแรงของลูกน้อยในครรภ์ได้อีกด้วย

เครดิตแหล่งข้อมูล : maerakluke