แม่ท้องอย่างเรา.. จะรู้ได้อย่างไรว่าลูกในครรภ์แข็งแรง
ในช่วงตั้งครรภ์ ความวิตกกังวลความเครียดมักจะเกิดขึ้นกับแม่ท้องได้ง่ายกว่าปกติ โดยเฉพาะกังวลเกี่ยวกับลูก ว่าลูกจะเป็นอย่างไร แข็งแรงหรือไม่ อาการครบ 32 หรือไม่ สารพัดสารพันที่แม่จะกังวลก็ด้วยความรักที่มีต่อลูกน้อยนั่นเอง อยากทราบไหมคะว่า เราจะรู้ได้อย่างไรว่าลูกน้อยในท้องของคุณแม่นั้นแข็งแรงดีหรือไม่ ติดตามอ่านค่ะ
รู้ได้อย่างไรว่าลูกในครรภ์แข็งแรง
ทารกน้อยในครรภ์จะแข็งแรงดีหรือไม่ ส่วนหนึ่งมาจากสุขภาพของคุณแม่ ดังนั้น เวลาไปหาคุณหมอเพื่อตรวจสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจความดันโลหิต ตรวจปัสสาวะ ตรวจเลือดดูว่าซีดหรือไม่ บวมหรือเปล่า ตรวจดูน้ำหนักที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงการสอบถามอาการผิดปกติต่าง ๆ สิ่งสำคัญลำดับแรกเลย คือ การฝากครรภ์ เมื่อทราบว่าตนเองตั้งครรภ์แน่ ๆ แล้ว ฝากครรภ์คือทางเลือกที่ควรทำที่สุด ถ้าหากคุณแม่ไปฝากครรภ์และไปพบคุณหมอตามนัดสม่ำเสมอ เมื่อมีสัญญาณเตือนภัยที่อาจเกิดความผิดปกติ ที่แสดงว่าทารกอาจจะมีสุขภาพไม่แข็งแรง เช่น น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าปกติ ขนาดมดลูกโตช้า ลูกดิ้นน้อยลง คุณแม่มีอาการบวมมาก หรือมีความดันโลหิตสูง คุณหมอจะได้เลือกวิธีการตรวจรักษาที่เหมาะสมกับภาวะผิดปกติต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นค่ะ
การตรวจวินิจฉัยว่าลูกในท้องแข็งแรงหรือไม่
ปัจจุบันนี้เครื่องมือที่ใช้ตรวจทารกในครรภ์มีความทันสมัย จากการพัฒนาเทคโนโลยีทางด้านการแพทย์ ได้แก่
การตรวจอัลตร้าซาวด์ ที่สามารถสร้างภาพ 4 มิติของทารกได้ มองทะลุผ่านหน้าท้องเข้าไปยังมดลูกโดยตรงจนสามารถมองเห็นรูปร่างของทารกชัดเจน แทบจะทราบเลยว่า ทารกนั้นมีหน้าตาคล้ายคุณพ่อหรือคุณแม่ แถมยังสามารถตรวจดูระบบการหมุนเวียนของเลือดตามอวัยวะต่าง ๆ ตั้งแต่รก สายสะดือ หัวใจหรือแม้กระทั่งสมอง เพื่อตรวจดูว่าลูกน้อยของคุณแม่แข็งแรงและปลอดภัยดี
การตรวจฟังเสียงหัวใจทารก และบันทึกออกมาเป็นกราฟเพื่อใช้ตรวจดูสุขภาพของทารก
ในกรณีทั่วไปการตรวจครรภ์ปกติ คุณหมอตรวจดูขนาดของมดลูกและทารกด้วยการใช้มือคลำ ร่วมกับการฟังเสียงการเต้นของหัวใจที่สม่ำเสมอในระยะเวลาสั้น ๆ ก็มั่นใจได้แล้วค่ะว่าลูกมีสุขภาพดี
กรณีที่ตรวจพบว่า เกิดความผิดปกติหรือลูกน้อยมีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตราย หรือเสี่ยงเสียชีวิต คุณหมอจะรีบให้การช่วยเหลือ และถ้าหากอยู่ในระยะคลอดที่ปลอดภัย คุณหมอก็จะสามารถช่วยโดยการผ่าตัดคลอดได้ทันท่วงที
สิ่งสำคัญ ในระหว่างที่ตั้งครรภ์นอกจากการฝากครรภ์แต่เนิ่น ๆ แล้ว คุณแม่ต้องรักษาสุขภาพอนามัยให้แข็งแรง รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำ พักผ่อนให้เพียงพอ ทำจิตใจให้แจ่มใส และไม่เครียด อาจหางานอดิเรกทำเบา ๆ ฟังเพลง อ่านหนังสือ หากไม่มีปัญหาความผิดปกติใด ๆ ที่ไม่สามารถออกกำลังกายได้ การว่ายน้ำ การเดิน และฝึกโยคะเป็นการออกกำลังกายที่เหมาะกับคนท้องนะคะ รวมถึงหลีกเลี่ยงสิ่งที่อาจก่อให้เกิดอันตราย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ควันบุหรี่ อาหารที่ปนเปื้อน การนั่ง หรือยืนนาน ๆ ล้วนส่งผลเสียต่อคุณแม่และทารก ดังนี้นจึงควรหลีกเลี่ยง เพื่อให้ทารกน้อยในครรภ์มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงค่ะ
เครดิตแหล่งข้อมูล : maerakluke
รู้ได้อย่างไรว่าลูกในครรภ์แข็งแรง
ทารกน้อยในครรภ์จะแข็งแรงดีหรือไม่ ส่วนหนึ่งมาจากสุขภาพของคุณแม่ ดังนั้น เวลาไปหาคุณหมอเพื่อตรวจสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจความดันโลหิต ตรวจปัสสาวะ ตรวจเลือดดูว่าซีดหรือไม่ บวมหรือเปล่า ตรวจดูน้ำหนักที่เพิ่มมากขึ้น รวมถึงการสอบถามอาการผิดปกติต่าง ๆ สิ่งสำคัญลำดับแรกเลย คือ การฝากครรภ์ เมื่อทราบว่าตนเองตั้งครรภ์แน่ ๆ แล้ว ฝากครรภ์คือทางเลือกที่ควรทำที่สุด ถ้าหากคุณแม่ไปฝากครรภ์และไปพบคุณหมอตามนัดสม่ำเสมอ เมื่อมีสัญญาณเตือนภัยที่อาจเกิดความผิดปกติ ที่แสดงว่าทารกอาจจะมีสุขภาพไม่แข็งแรง เช่น น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าปกติ ขนาดมดลูกโตช้า ลูกดิ้นน้อยลง คุณแม่มีอาการบวมมาก หรือมีความดันโลหิตสูง คุณหมอจะได้เลือกวิธีการตรวจรักษาที่เหมาะสมกับภาวะผิดปกติต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นค่ะ
การตรวจวินิจฉัยว่าลูกในท้องแข็งแรงหรือไม่
ปัจจุบันนี้เครื่องมือที่ใช้ตรวจทารกในครรภ์มีความทันสมัย จากการพัฒนาเทคโนโลยีทางด้านการแพทย์ ได้แก่
การตรวจอัลตร้าซาวด์ ที่สามารถสร้างภาพ 4 มิติของทารกได้ มองทะลุผ่านหน้าท้องเข้าไปยังมดลูกโดยตรงจนสามารถมองเห็นรูปร่างของทารกชัดเจน แทบจะทราบเลยว่า ทารกนั้นมีหน้าตาคล้ายคุณพ่อหรือคุณแม่ แถมยังสามารถตรวจดูระบบการหมุนเวียนของเลือดตามอวัยวะต่าง ๆ ตั้งแต่รก สายสะดือ หัวใจหรือแม้กระทั่งสมอง เพื่อตรวจดูว่าลูกน้อยของคุณแม่แข็งแรงและปลอดภัยดี
การตรวจฟังเสียงหัวใจทารก และบันทึกออกมาเป็นกราฟเพื่อใช้ตรวจดูสุขภาพของทารก
ในกรณีทั่วไปการตรวจครรภ์ปกติ คุณหมอตรวจดูขนาดของมดลูกและทารกด้วยการใช้มือคลำ ร่วมกับการฟังเสียงการเต้นของหัวใจที่สม่ำเสมอในระยะเวลาสั้น ๆ ก็มั่นใจได้แล้วค่ะว่าลูกมีสุขภาพดี
กรณีที่ตรวจพบว่า เกิดความผิดปกติหรือลูกน้อยมีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตราย หรือเสี่ยงเสียชีวิต คุณหมอจะรีบให้การช่วยเหลือ และถ้าหากอยู่ในระยะคลอดที่ปลอดภัย คุณหมอก็จะสามารถช่วยโดยการผ่าตัดคลอดได้ทันท่วงที
สิ่งสำคัญ ในระหว่างที่ตั้งครรภ์นอกจากการฝากครรภ์แต่เนิ่น ๆ แล้ว คุณแม่ต้องรักษาสุขภาพอนามัยให้แข็งแรง รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำ พักผ่อนให้เพียงพอ ทำจิตใจให้แจ่มใส และไม่เครียด อาจหางานอดิเรกทำเบา ๆ ฟังเพลง อ่านหนังสือ หากไม่มีปัญหาความผิดปกติใด ๆ ที่ไม่สามารถออกกำลังกายได้ การว่ายน้ำ การเดิน และฝึกโยคะเป็นการออกกำลังกายที่เหมาะกับคนท้องนะคะ รวมถึงหลีกเลี่ยงสิ่งที่อาจก่อให้เกิดอันตราย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ควันบุหรี่ อาหารที่ปนเปื้อน การนั่ง หรือยืนนาน ๆ ล้วนส่งผลเสียต่อคุณแม่และทารก ดังนี้นจึงควรหลีกเลี่ยง เพื่อให้ทารกน้อยในครรภ์มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงค่ะ
เครดิตแหล่งข้อมูล : maerakluke
เครดิต :
ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!" ประกาศ "
ร่วมแสดงความคิดเห็น