คุณแม่ตั้งครรภ์ยืนนานๆ ส่งผลต่อทารกในครรภ์อย่างไรบ้าง
โดยปกติแล้ว เมื่อคนท้องยืนนานๆ ย่อมส่งผลต่อร่างกายคุณแม่เอง แต่ผลกระทบนั้นจะเพิ่มมากขึ้นเมื่อเข้าสู่ไตรมาสที่ 3 ซึ่งมีโอกาสที่มดลูกไปเบียดกับเส้นเลือดดำ หรือหลอดน้ำเหลืองที่ถ่ายเทเลือดมาจากส่วนล่างของร่างกาย ทำให้การไหลเวียนของเลือดไม่ดีเท่าที่ควร และส่งผลกระทบต่อแม่และทารกในครรภ์ได้
คนท้องยืนนานๆ ส่งผลกับทารกในครรภ์ยังไงบ้าง
การตั้งครรภ์ของคุณแม่ทุกครั้งย่อมเกิดความเสี่ยง แต่ความเสี่ยงนั้นจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งสุขภาพร่างกายของคนท้อง ประวัติครอบครัว การดูแลตัวเอง เป็นต้น แต่หากอยู่ในการดูแลของแพทย์ก็จะช่วยควบคุมและลดความเสี่ยงจากปัจจัยต่างๆ ลงได้ ซึ่งกรณีคุณแม่ตั้งครรภ์ยืนทำงานนานๆ คือหนึ่งในปัจจัยที่พบได้บ่อย และยังอาจส่งผลกระทบต่อคนท้องและลูกน้อย ดังนี้
-ขาบวมและปวดขา เนื่องจากการไหลเวียนไม่ดี และในหญิงตั้งครรภ์ที่มีน้ำหนักมากยิ่งขึ้นก็ส่งผลกระทบให้ปวดเมื่อยนั่นเอง
-ทำให้ปวดหลัง เนื่องจากในหญิงตั้งครรภ์มดลูกจะยื่นขยายไปด้านหน้า ทำให้กล้ามเนื้อหลังทำงานหนักมากกว่าปกติ ซึ่งถ้ายืนนานๆ จะทำให้มีอาการล้าของกล้ามเนื้อได้
-ในกรณีที่ปากมดลูกสั้นและคุณแม่เดินเยอะจะยิ่งเพิ่มโอกาสในการคลอดก่อนกำหนดมากขึ้นหากจำเป็นต้องยืนนานๆ นี่คือข้อควรปฏิบัติสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์
-หมั่นเคลื่อนไหวร่างกาย ขยับร่างกายบ่อยๆ เพื่อให้เลือดได้ไหลเวียนดี
-ดื่มน้ำเสมอๆ ปัสสาวะออก เพื่อไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ
-ไม่ควรสวมรองเท้าส้นสูง สวมใส่รองเท้าที่รับกับเท้าได้พอดี สวมใส่สบาย ไม่คับและหลวมจนเกินไป รองรับเท้าได้พอดี เพื่อป้องกันการล้มและเกิดอุบัติเหตุเมื่อเดินหรือยืนเป็นเวลานานควรหยุดพักมานั่งบ้าง และบริหารร่างการโดยการยกเท้าขึ้นสูงเพื่อให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น
เมื่อคุณแม่เดินหรือยืนนาน และมีอาการท้องแข็ง ควรหยุดเดินทันที เพราะจะทำให้มดลูกบีบตัวมากจนเกินไป อาจทำให้เจ็บครรภ์คลอดก่อนกำหนดได้ อีกทั้งหากมีอาการท้องแข็งติดต่อกันนาน ควรรีบมาพบแพทย์เพื่อตรวจเช็คและหาสาเหตุต่อไป
เครดิตแหล่งข้อมูล : phyathai.com