ลูกสะอึกในท้อง รู้สึกต่างจากลูกดิ้นอย่างไร เป็นสัญญาณบอกอะไร

ลูกสะอึกในท้อง รู้สึกต่างจากลูกดิ้นอย่างไร เป็นสัญญาณบอกอะไร


ลูกสะอึกในท้อง รู้สึกต่างจากลูกดิ้นตรงไหน เป็นสัญญาณบอกอะไร เพราะอาการที่ลูกสะอึกในท้อง เป็นอาการที่ทำให้แม่ท้องหลาย ๆ คนเกิดความกังวลใจ การที่ลูกสะอึกในท้องแม่นั้นจะเป็นอันตรายหรือไม่ แล้วต่างจากลูกดิ้นอย่างไร เราไปหาคำตอบพร้อมกัน

ลูกสะอึกในท้อง เกิดจากสาเหตุใด
ลูกสะอึกในท้อง เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้กับทารกทุกคน และเป็นส่วนหนึ่งของพัฒนาการที่สำคัญของทารกในครรภ์ ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ลูกในครรภ์สะอึกนั้น เกิดขึ้นเนื่องจากประสาทส่วนกลางของทารกมีความสมบูรณ์ และระบบประสาทส่วนกลางนี้เองที่ทำให้ทารกมีความสามารถหายใจในน้ำคร่ำได้ ดังนั้น การสะอึกจึงเกิดจากการที่ของเหลว ไหลเข้าและออกจากปอดของทารก ส่งผลให้กล้ามเนื้อกระบังลมมีการหดตัวอย่างรวดเร็ว

โดยทั่วไป แม่ท้องจะเริ่มรู้สึกว่าลูกดิ้นในช่วงประมาณสัปดาห์ที่ 8 - 20 ของการตั้งครรภ์ แต่สำหรับคุณแม่ท้องหลังก็อาจจะรู้สึกถึงความเคลื่อนไหวของลูกในท้องตั้งแต่ช่วงประมาณสัปดาห์ที่ 16 เป็นต้นไปในขณะที่ทารกจะเริ่มสะอึกในช่วงไตรมาสที่ 2 ของการตั้งครรภ์ อาจจะวันละครั้งหรือหลายครั้งก็ได้ และทารกบางคนก็อาจมีอาการสะอึกได้หลายครั้งต่อวัน หรือบางคนอาจไม่สะอึกเลยก็มี

แต่ถ้าหากว่าหลังจากสัปดาห์ที่ 32 ไปแล้ว คุณแม่ยังรู้สึกว่าลูกสะอึกทุกวัน ก็อาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงความปกติของสายรก ซึ่งคุณแม่ควรไปพบคุณหมอเพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยต่อไป

ลูกสะอึกในท้อง รู้สึกต่างจากลูกดิ้นอย่างไร เป็นสัญญาณบอกอะไร

ลูกสะอึกในท้องต่างจากลูกดิ้นอย่างไร
การที่ลูกในท้องสะอึกนั้น ไม่ถือว่าเป็นการดิ้นของทารกนะครับ แม้ว่าอาจจะดูเหมือนการดิ้นก็ตาม ซึ่งหากคุณแม่รู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของลูกในท้อง ในหลาย ๆ จุด เช่น บริเวณท้องส่วนบน ส่วนล่าง หรือด้านข้าง และรู้สึกว่าลูกในท้องหยุดเคลื่อนไหวตอนที่คุณแม่ขยับเปลี่ยนท่าทาง นั่นก็อาจจะถือว่าเป็นการดิ้น

ในขณะเดียวกัน หากคุณแม่นั่งนิ่ง ๆ อยู่กับที่ และมีความรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวเป็นลักษณะของการกระตุก หรืออาการเกร็งเล็กน้อยที่ท้อง เป็นจังหวะที่สม่ำเสมอกัน ที่จุด ๆ เดียว นั่นก็อาจหมายความว่าลูกในท้องของคุณกำลังสะอึกอยู่นั่นเอง

ลูกในท้องสะอึก อันตรายไหม

การที่ลูกในท้องสะอึกนั้น ถือเป็นอาการปกติที่เกิดขึ้นได้กับทารกในครรภ์ทุกคน ส่วนใหญ่แล้วไม่เป็นอันตรายอะไร อีกทั้งยังมีผลดีในแง่ของการควบคุมการเต้นของหัวใจของทารกในช่วงท้าย ๆ ของการตั้งครรภ์ ทำให้การเต้นของหัวใจมีการเต้นเป็นจังหวะที่สม่ำเสมอ

แต่หากว่าคุณแม่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกติไป เช่น จู่ ๆ ลูกในท้องก็กระตุกแรงขึ้น นานขึ้น หรือรู้สึกถึงความผิดปกติอื่น ๆ ก็ไม่ควรนิ่งนอนใจ และควรเข้าไปพบแพทย์โดยเร็ว เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณของความผิดปกติอย่างเช่น สายสะดือถูกกดทับ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ได้ แม้ว่าจะมีโอกาสเกิดขึ้นน้อยมากก็ตาม

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
เช็คเบอร์มือถือ คลิ๊กเลย ++
กระทู้เด็ดน่าแชร์