เมื่อ "ลูกหายใจผิดปกติ"
1. สังเกตการณ์หายใจลูก
โดยปกติเด็กเล็กมักจะหายใจเร็วค่ะ เด็กตั้งแต่แรกเกิด-2 เดือน จะมีอัตราการหายใจอยู่ที่ 60 ครั้งต่อนาที เมื่อโตขึ้นมาสักหน่อยอายุ 2 เดือน-1 ปี อยู่ที่ 50 ครั้งต่อนาที แต่เมื่ออายุ 1-3 ปีขึ้นไป อัตราการหายใจของลูกจะเริ่มลดลงและจะเป็นไปอย่างสม่ำเสมอ ประมาณ 20-30 ครั้งต่อนาทีค่ะ
2. ถ้าลูกมีลักษณะดังต่อไปนี้ ต้องรีบพาไปหาคุณหมอนะค่ะ
- อัตราการหายใจผิดปกติ
ถ้าลูกหายใจโดยมีจำนวนครั้งมากกว่าปกติ เป็นลักษณะของการหายใจที่บ่งชี้ว่าบริเวณปอดหรือเยื่อหุ้มปอดอาจมีปัญหาค่ะ เนื่องจากปอดถูกดันเอาไว้เมื่อหายใจเข้าก็เหมือนจะหายใจได้ไม่เต็มที่ จึงต้องเพิ่มจำนวนครั้งในการหายใจเพื่อให้ได้ปริมาณออกซิเจนในปอดต่อนาทีเท่าเดิม
- หายใจมีเสียง
ซึ่งเป็นเสียงที่ไม่ควรจะเกิดกับเด็กๆ เช่น เสียงกรนที่ดังมาก หรือเสียงหายใจในทรวงอก ที่ทางการแพทย์เรียกว่าเสียงหวีด ซึ่งเกิดขึ้นทั้งกลางวันและกลางคืนทั้งเวลาตื่นและเวลานอน มีลักษณะเป็นเสียงทุ้มเหมือนท่อที่ตีบแคบลง ซึ่งเป็นสัญญาณของความผิดปกติของหลอดลม
- ซี่โครงบาน ที่เรียกว่าภาวะ Paradoxical Breathing หรือการหายใจที่ตรงข้ามกัน
โดยปกติแล้วเวลาเราหายใจเข้าผนังทรวงอกจะต้องขยายเนื่องจากกะบังลมมีการเลื่อนลงมาและท้องก็จะป่องตาม แต่หากลูกหายใจผิดปกติก็จะมีลักษณะการหายใจที่ตรงข้าม คือเมื่อหายใจเข้ากล้ามเนื้อบริเวณกะบังลมจะเคลื่อนลงมาแรงกว่าเดิมทำให้ท้องป่องแต่หน้าอกแฟบ เมื่อหายใจออกท้องยุบแต่ทรวงอกโป่งทำให้ช่องซี่โครงบานนั่นเองซึ่งอาการดังกล่าวนี้มีสาเหตุมากจากการอุดตันบริเวณหลอดลม
- มือและปาก คล้ำ เขียว
ในกรณีของเด็กที่ไม่มีปัญหาเรื่องภาวะโรคหัวใจแต่กำเนิดเลย ปาก มือและเล็บเป็นสีชมพูปกติ แต่หากมีอาการ ปากคล้ำ มือคล้ำ หายใจลำบาก ไอมาก หรือหายใจเสียงดัง นั่นเป็นลักษณะที่บ่งชี้ว่าออกซิเจนในเลือดต่ำ ถ้าลูกมือคล้ำ แต่ปากไม่คล้ำความรุนแรงก็จะลดลงค่ะ แต่ถ้าทั้งมือและปากคล้ำด้วยกันทั้งสองอย่างหรือเด็กบางคนหยุดหายใจทันที คุณพ่อคุณแม่ต้องรีบพาลูกไปหาหมออย่างเร่งด่วนเพื่อตรวจร่างกายและวินิจฉัยว่าเป็นโรคอะไร
3. หายใจผิดปกติ
- ปอดอักเสบ
- มีปัญหาทางสมอง
- ทางเดินหายใจอุดตัน