#สื่อหน้าจอไมช่วยพัฒนาสมองเด็ก
สื่อหน้าจอในที่นี้ ได้แก่ โทรทัศน์ แท็บเล็ต สมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ Youtube DVD หรือสื่อใดๆที่มีลักษณะเป็นภาพเคลื่อนไหว หน้าจอทุกชนิด
#เด็กปฐมวัย ควรได้รับการพัฒนาทั้งร่างกายและสมองด้วยกิจกรรมต่างๆ กระตุ้นประสาทสัมผัสทุกส่วน หู ตา จมูก ปาก สัมผัส มีการส่งเสริมพัฒนาการกล้ามเนื้อมัดใหญ่ กล้ามเนื้อมัดเล็ก ภาษา สังคม และการช่วยเหลือตัวเอง ซึ่ง "หน้าจอ" ไม่ได้ช่วยส่งเสริมพัฒนาการเหล่านี้แต่อย่างใด
วัยเด็กเป็นวัยทองของการสร้างสรรค์จินตนาการ เด็กจะสร้างจินตนาการจากประสบการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเองจริงๆ เด็กที่จมอยู่กับหน้าจอ เขาจะไม่สามารถสร้างจินตนาการ และไม่สามารถสร้างความสุขได้ด้วยตัวเอง เพราะหน้าจอ เป็นสื่อที่เร้าอารมณ์ สนุกสนาน
สังเกตดูนะคะ ว่า เด็กที่ไม่เคยเจอหน้าจอเลย ยื่นขวดน้ำให้เขาซักขวด เขาจะสามารถสร้างความสุขจากสิ่งที่เขามี มีการออกแบบการเล่นเองจากสิ่งของที่มีอยู่
...ในขณะที่เด็กที่อยู่กับหน้าจอ มักจะรอคอย อยู่เฉยๆ ไม่ค่อยได้ ใจร้อน รู้สึกเบื่อง่าย เพราะเขาเคยถูกกระตุ้นความสนุกสนานจากหน้าจอมา พอให้ตัวเองกระตุ้นตัวเองให้สนุก เขาก็เลยทำไม่ได้
"หน้าจอ" กลายเป็นพี่เลี้ยงเด็ก ผู้ช่วยพ่อแม่ แต่หารู้ไม่ว่า หน้าจอ เสมือนกับภัยมืด ที่ค่อยๆคุกคามลูกของเรา
เอาเป็นว่า หน้าจอ ในช่วงปฐมวัย อย่าพึ่งเจอกันเลยค่ะ
ถามว่า อ้าว แล้วจะไม่ให้เล่นเลยเหรอ
ตอบค่ะว่า ให้เล่นค่ะ แต่ไม่ใช่ตอนนี้ เวลานี้ รอไปก่อนค่ะ ถึงเวลาที่เหมาะสม วัยที่เหมาะสม ค่อยเล่นก็ไม่สายไปหรอกค่ะ
...
ส่วนเรื่องการพัฒนาด้านภาษา..การสอนภาษาทุกภาษา เหมือนกันหมดค่ะ คือ สอนผ่านคนจริงๆ ไม่ใช่สอนผ่านหน้าจอ
มีงานวิจัยออกมาแล้วนะคะ ว่า #หน้าจอไม่ได้ช่วยพัฒนาด้านภาษา
มีการจัดเด็ก 2 กลุ่ม
กลุ่มที่ 1 เด็กที่เรียนภาษาจากคุณครูตัวเป็นๆ
กลุ่มที่ 2 เด็กที่เรียนภาษาจากคุณครูคนเดียวกัน แต่ดูผ่านหน้าจอ
ผลคือ เด็กกลุ่มที่ 1 มีการพัฒนาด้านภาษามากกว่าค่ะ
จึงสรุปได้ว่า การเรียนภาษา ต้องเรียนจากคนจริงๆ ไม่ใช่เรียนหรือสอนผ่านหน้าจอ
สำหรับเด็กที่ดูหน้าจอ แล้ว พูดได้ ไม่ใช่เพราะหน้าจอ แต่เพราะพ่อแม่ค่ะ
...
บทความอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ลองอ่านในอัลบั้มเลี้ยงลูกให้ถูกทางดูนะคะ
https://www.facebook.com/media/set/…
(ในอัลบั้มนี้ จะมีเรื่องผลกระทบของหน้าจอ การสร้างความสุข จินตนาการ อยู่ได้ยังไงเมื่อไม่มีหน้าจอ การอ่านหนังสือให้ลูกฟังดีอย่างไร)
ปล1. แอดมินนำความรู้ที่เคยอ่านมาผสมผสานกับประสบการณ์ที่แอดมินเคยเจอมา แล้วนำมาเผยแพร่นะคะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อคุณพ่อคุณแม่ทุกท่านค่ะ
ปล2. พ่อแม่บางประเภท ที่ใช้หน้าจอเลี้ยงลูก ก็มักหาเหตุผล เพื่อที่จะได้ใช้หน้าจอเลี้ยงลูกโดยไม่ให้ตัวเองต้องรู้สึกผิด ก็แล้วแต่นะคะ ลูกคุณ ก็ดูแลเอาเอง แอดมินก็แค่เอาความรู้มาแบ่งปันค่ะ ไม่ต้องมาอ้างเหตุผลนานาประการ เพื่อให้การกระทำของตัวเองมันชอบธรรมหรอกค่ะ แอดมินไม่ได้มีส่วนอะไรกับคุณ
ปล3. สำหรับโพสนี้ ขอแนบคำสอนของครูไว้ด้วยค่ะ
"ผมจูงควายมาถึงหนองน้ำแล้ว
ควายมันจะกินหรือไม่ ก็เรื่องของควาย
กูพามาถึงแล้ว มึงจะไม่กินก็ช่างมึง"
-อ.ถวัลย์ ดัชนี-
ขอบคุณภาพจาก Siwakarn Patoommasoot