เพราะสมองของลูกน้อยจะมีการพัฒนาสูงสุดใน 2 ขวบแรก เรียกว่าเป็นช่วงวัยทองของสมอง มีงานวิจัยศึกษาในเด็กวัย 2 -4 ขวบ ให้ข้อมูลสนับสนุนว่า อาหารปลาเป็นหนึ่งในสารอาหารหลักที่ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการด้านการเรียนรู้ และความจำในเด็ก ปลาที่มีโอเมก้ามาก ได้แก่ ปลาทู ปลาโอ ปลาแซลมอน และปลาอินทรีการที่คุณแม่ให้ลูกกินปลาอย่างน้อยวันละ 1 ขีด 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ ก็ทำให้ลูกได้รับสารDHA ที่เพียงพอ
คุณพ่อ คุณเเม่ จะ พัฒนาสมอง ลูกน้อย ได้อย่างไร??
แพทย์หญิงเกศินี โอวาสิทธิ์ กุมารแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการและพฤติกรรม ศูนย์พัฒนาการและการเรียนรู้ ให้ข้อมูลสำคัญเรื่องการพัฒนาศักยภาพของสมอง ว่าความฉลาดมีองค์ประกอบ 3 ปัจจัยหลัก คือ
1. พันธุกรรมที่ได้รับมาจากคุณพ่อคุณแม่ คือ เรื่องของคู่ครอง
2. การเลี้ยงดู ซึ่งเชื่อมโยงถึงเรื่องของสิ่งแวดล้อมและการศึกษา และ
3. โภชนาการ คือ การได้รับอาหารหลัก 5 หมู่ รวมถึงน้ำและอากาศบริสุทธ์
“ผลวิจัยทางการแพทย์แสดงให้เห็นว่าเด็กที่ได้รับสารอาหารแอลฟา-แลคตัลบูมินจากน้ำนมแม่นาน 6 เดือน พบว่าเด็กมีพัฒนาการที่ดีกว่า ซึ่งส่งผลดีต่อพฤติกรรม การเรียนรู้ การพัฒนาสมองและอารมณ์ ในทางตรงกันข้ามเด็กที่ขาดสารอาหารแอลฟา-แลคตัลบูมินจะมีไอคิวต่ำและพัฒนาการที่ไม่สมวัย ดังนั้นคุณแม่ควรให้นมแม่นานที่สุด แอลฟา-แลคตัลบูมินยังมีประโยชน์กับคุณแม่ตั้งครรภ์และคุณแม่ให้นมบุตร เพราะโปรตีนแอลฟา-แลคตัลบูมินเป็นหนึ่งในสารอาหารที่สำคัญที่สร้างการเติบโตของเซลล์ประสาทและพัฒนาการของสมองทารกในระหว่างตั้งครรภ์และหลังคลอด รวมถึงกระบวนการสร้างน้ำนม”
“แต่สำหรับคุณแม่ที่ไม่สามารถให้นมบุตรได้ อาจให้นมที่มีส่วนผสมของสารอาหาร แอลฟา-แลคตัลบูมิน พร้อมทั้งโภชนาการที่เหมาะสม เช่น การรับประทานโปรตีนจากไข่ เนื้อ นม ชีส เป็นต้น”คุณหมอ
ดังนั้นเมื่อลูกน้อยมีต้นทุนที่ดีแล้วจากการโภชนาการที่ดี เซลล์สมองก็จะมีความสมบูรณ์ ถ้าคุณพ่อคุณแม่อยากให้ลูกฉลาดก็ควรส่งเสริมพัฒนาการของลูกอย่างเหมาะสม นั่นคือ เปิดโอกาสให้ลูกได้ทำกิจกรรมต่างๆ ด้วยตัวเองโดยมีคุณพ่อคุณแม่คอยช่วยเหลือแนะนำ การเลี้ยงดูลูกน้อยในสภาพแวดล้อมที่ดี ได้รับการกระตุ้นฝึกฝนทักษะด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เด็กฉลาดสามารถประเมินเบื้องต้นได้ด้วยการสังเกตทักษะการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็ก การใช้ตาและมือร่วมกัน การเข้าใจ การพูด การคิดแก้ปัญหา การที่ลูกน้อยทำกิจกรรม 1 กิจกรรมนั้น ประกอบไปด้วยการทำงานของสมองหลายส่วน ที่ทำงานเชื่อมโยงกันอย่างซับซ้อน เช่น การร้องเพลง ลูกน้อยก็ต้องจำเนื้อร้อง-ทำนอง-จังหวะ ขยับแขนขาให้สอดคล้องกับเพลง ส่งยิ้มให้คนฟัง เป็นต้น