ท่าอุ้มเข้าเต้าที่ถูกต้อง มีกี่แบบ แต่ละแบบเอาไว้ใช้ตอนไหน?
ท่าอุ้มเข้าเต้าที่ถูกต้อง
1.อุ้มลูกให้อยู่ในอ้อมแขนด้วยท่าทางที่สบายทั้งแม่และลูก ตะแคงลำตัวของลูกให้เข้าหาแม่ ลำตัวของลูกแนบชิดกับตัวแม่ ให้ศีรษะ ไหล่และสะโพกของลูกอยู่ในแนวเส้นตรงเดียวกัน
2.ส่งหัวนมให้เข้าปากของลูก โดยที่ปากของลูกต้องงับเข้าถึงบริเวณลานนม
3.ตรวจสอบว่าลูกเข้าเต้าถูกวิธีหรือไม่ สังเกตได้จากคุณแม่จะรู้สึกว่าลิ้นของลูกกดทับที่หัวนมของคุณแม่กับเพดานปากของลูก แล้วเห็นว่าลิ้นและขากรรไกรล่างของลูกรีดนมออกมา
4.ให้ลูกดูดนมเต็มที่ เมื่อไม่มีน้ำนมแล้วลูกจะปล่อยปากจากเต้านมเอง หรือถ้าคุณแม่ให้ลูกดูดนมข้างหนึ่งได้สักพักแล้วต้องการเปลี่ยนข้าง ให้ลองสอดนิ้วก้อยเข้าไปด้านข้างปากของลูกเพื่อหยุดแล้วเปลี่ยนให้ลูกดูดนมอีกข้างหนึ่งก็ได้
ท่าให้นมลูก โดยหลักๆ มีอยู่ด้วยกัน 4 แบบ1.ท่าลูกนอนขวางบนตัก (Cradle hold)
ท่าให้นมลูกท่านอนขวางตักจะอยู่ในท่าขณะที่คุณแม่นั่ง และจับตัวลูกหันตะแคงเข้าหาลำตัวของคุณแม่ วางลูกบนตักหาหมอนมารองรับตัวลูกไว้เพื่อให้ลูกสามารถอมหัวนมได้ลึก และจมูกไม่กดทับกับเต้านมของแม่
ปากของลูกจะอยู่ตรงหัวนมพอดี ศีรษะและลำตัวอยู่ในแนวตรง ให้ศีรษะสูงกว่าลำตัวเล็กน้อย
2.ท่าลูกนอนขวางบนตักแบบประยุกต์ (Modified / cross cradle hold)
ท่าให้นม ในท่านี้จะคล้ายกับท่าแรก(Cradle hold) แตกต่างกันที่เปลี่ยนมือ คือ ใช้มือข้างเดียวกับเต้านมที่ลูกดูดประคองเต้านม มืออีกข้างรองรับต้นคอและท้ายทอยของลูกแทน
ท่าให้นมลูกท่านี้เหมาะสำหรับนำลูกเข้าอมหัวนม จะช่วยในการควบคุมการเคลื่อนไหวของศีรษะลูกได้ดี โดยเฉพาะเมื่อลูกเริ่มโตและรู้จักเล่นซน แถมหมั่นเขี้ยวกัดดึงหัวนมคุณแม่ ท่านี้จะช่วยได้มากค่ะ
3.ท่าอุ้มลูกฟุตบอล (Clutch hold หรือ Football hold)
ท่าให้นมลูกท่านี้เป็นท่าทางในขณะที่แม่นั่ง และคล้าย ๆ กับท่าแรก ลูกจะอยู่ในท่าทางกึ่งตะแคงกึ่งนอนหงาย ขาชี้ไปทางด้านหลังของคุณแม่
คุณแม่อุ้มลูกไว้ ใช้ฝ่ามือจับศีรษะบริเวณท้ายทอย ท่านี้จะทำให้สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวของลูกได้
มือของแม่จับที่ต้นคอและท้ายทอยของลูก กอดลูกให้กระชับกับสีข้างแม่ ลูกดูดนมจากเต้านมข้างเดียวกับ
มือที่จับลูก มืออีกข้างประคองเต้านมไว้
ท่าอุ้มลูกฟุตบอลใช้ได้ดีสำหรับ
แม่ที่ผ่าท้องคลอด เพราะตัวของลูกจะไม่ไปสัมผัสกับท้องของแม่ที่มีรอยแผลผ่าตัดอยู่
คุณแม่ที่มีเต้านมใหญ่ แต่ลูกมีขนาดตัวเล็ก จะทำให้ลูกงับลานนมจนถึงหัวนมได้ดีกว่า
คุณแม่ที่มีลูกแฝดสามารถให้ลูกดูดนมไปพร้อม ๆ กันทีเดียว 2 คนได้
4.ท่านอน (Side lying position)
ท่านี้เป็นท่านอน คือ แม่และลูกนอนตะแคงตัวเข้าหากัน แม่นอนศีรษะสูงเล็กน้อย หลังและสะโพกตรง ให้ปากลูกอยู่ตรงกับหัวนมของแม่ มือที่อยู่ด้านล่างประคองตัวลูกให้ชิดลำตัวแม่
คุณแม่ควรใช้หมอนหรือผ้าขนหนูหนุนหลังลูกไว้แทนแขนของแม่ มือที่อยู่ด้านบน ประคองเต้านมในช่วงแรกที่เริ่มเอาหัวนมเข้าปากลูก เมื่อลูกดูดได้ดี ก็ขยับออกได้
ท่านี้มีประโยชน์ในการให้นมตอนกลางคืน หรือในรายหลังผ่าตัดคลอดวันแรกๆ ที่แม่อาจจะสะดวกในการนอนให้นมมากกว่านั่ง หรือแม่หลังคลอดใหม่ที่อ่อนเพลีย
5.ท่าเอนหลัง (LAID BACK BREASTFEEDING POSITION)
ท่าเอนหลัง ท่าให้นมท่านี้เป็นท่าที่คุณแม่สบายที่สุดและให้นมลูกอย่างเป็นธรรมชาติช่วยในการกระตุ้นพัฒนาการของทารกได้ดี ท่านี้จะจัดท่าให้คุณแม่นั่งเอนหลังหัวพิงหมอนหรือพนักพิงศีรษะ ซึ่งจะทำให้คุณแม่รู้สึกสบายขณะที่ให้นมลูก ส่วนของลูกก็จับให้ลูกหันหน้าเข้าหาเต้านม ให้ลำตัวลูกแนบชิดกับมารดาโดยจะอยู่ในแนวตั้ง แนวเอียง หรือแนวขวาง ตามความสะดวกของคุณแม่เลยค่ะ
ท่านี้เหมาะสำหรับคุณแม่ที่ผ่าคลอด เพราะสามารถจับตัวลูกให้หลีกเลี่ยงบริเวณแผลผ่าตัดคลอด ไม่ให้ลูกมาโดนหรือมากดทับบริเวณแผล ช่วยให้คุณแม่ไม่เจ็บแผลผ่าคลอดเวลาให้นมลูกด้วยค่ะ
6.ท่าหมีโคอาลา หรือ ท่านั่งหลังตรง (KOALA HOLD / UPRIGHT BREASTFEEDING POSITION)ท่าให้นมท่าหมีโคอาลา หรือ ท่านั่งหลังตรง เริ่มจากให้คุณแม่จับลูกนั่งหลังตรงหันหน้าเข้าหาคุณแม่ ส่วนคุณแม่ก็นั่งหลังตรงเช่นกัน โดยให้ขาของลูกอยู่ในลักษณะคร่อมเข่าของคุณแม่ไว้ มือของคุณแม่ข้างหนึ่งประคองศรีษะลูกไว้ อีกมือหนึ่งประคองเต้านมเข้าปากลูก
ท่านี้เหมาะสำหรับทารกที่มีปัญหาปากแหว่งเพดานโหว่ หรือทารกที่มีปัญหาเวลากินนมแล้วสำรอกหรืออาเจียนได้ง่าย การจัดให้ลูกดูดนมในท่านี้ จะช่วยให้ลูกเรอออกมาหลังจากกินนมได้ง่ายอีกด้วยค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ คุณแม่มือใหม่ตอนนี้ก็ได้ทราบเกี่ยวกับเรื่อง ท่าอุ้มเข้าเต้าที่ถูกต้อง ท่าให้นมลูก ในแต่ละแบบกันไปแล้วนะคะ ค่อย ๆ ฝึกไป เรียนรู้กันไปไม่นานก็เข้าที่เข้าทางสบายทั้งแม่และลูกแน่นอน เมื่อคุ้นชินแล้วก็ให้สังเกตดูว่าท่าให้นมลูกแบบไหนเหมาะสมสบายกับเราและลูกมากที่สุดก็เลือกใช้ท่านั้นค่ะ
เครดิตแหล่งข้อมูล : maerakluke