สัญญาณอันตรายของทารก ถ้าไม่ให้ลูกเปลี่ยนพฤติกรรมอาจเสี่ยงถึงตายได้
สัญญาณอันตรายของทารก ถ้าไม่ให้ลูกเปลี่ยนพฤติกรรมอาจเสี่ยงถึงตายได้
เด็กทารกเป็นช่วงวัยที่เขาไม่สามารถคิดเอง หรือเข้าใจโลกรอบตัวได้ เพราะฉะนั้นการที่ลูกจะปลอดภัย คนที่จะมี เคล็ด ลับ ลูก แข็งแรง สุขภาพ ดี ดูแล พฤติกรรมลูก ได้ก็คงจะมีแค่พ่อแม่ ผู้ปกครองเพียงเท่านั้น มี สัญญาณอันตรายของทารก หลายต่อหลายอย่างที่สามารถ บ่งบอกได้ว่าลูกคุณอาจจะมีอันตรายด้านสุขภาพ มาดู วิธีเลี้ยงลูกให้แข็งแรง กันเถอะ
ความไม่สมดุลของกะโหลก
คุณแม่หลายคนเจอปรากฏการณ์ที่เด็กเกิดใหม่จะเกิดมาพร้อมกับกะโหลกที่ไม่สมดุลกัน ในบางครั้งนี้อาจจะเป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติ แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเชื่อว่า นี่อาจจะเป็นสัญญาณที่ไม่ดีเท่าไหร่ ในเคสที่แย่จริงๆ มันอาจจะทำให้เกิดความผิดปกติทางจิตได้ เพราะว่ากะโหลกอยู่ผิดที่ผิดทาง วิธีที่จะเลี่ยงอาการแบบนี้ได้ก็คือ การเปลี่ยนท่าตอนนอน และ อุ้มหัวลูกมากขึ้น ในระยะเวลาหกเดือนกะโหลกจะกลับเป็นรูปแบบเดิมเอง
โรคคอเอียงแต่กำเนิด
อาการนี้มักเกิดในลูกที่พึ่งเกิดใหม่ และมักกจะทำให้เกิดอาการตื่นกลัวและเกิดความสงสัยในหมู่แม่มือใหม่ขึ้น คุณหมอเชื่อว่าอาการนี้เกิดจากการที่ ตัวอ่อนที่อยู่ในครรภ์ อยู่ผิดที่ผิดทาง หรือ การใช้เครื่องดูดในระหว่างการคลอด อาการนี้สังเกตได้ไม่ยาก เพราะว่าเด็กจะชอบเอียงคอไปก้านเดียว คุณหมอแนะนำว่าอาการนี้สามารถจะรักษาได้โดย วางเด็กไว้ที่เตียงแล้วลองจับให้ลูกเอียงคอไปอีกด้านนึงบ้าง
นั่งท่าเหมือนตัว W
เด็กหลายคนชอบนั่งท่าเหมือนตัว W หรือที่เรียกว่า ท่า นั่ง w sitting และหมอก็ออกมาบอกแล้วว่านี่เป็นท่านั่งที่ไม่ดีต่อสุขภาพเลยแม้แต่น้อย ในท่านั่งลักษณะนี้ตัวด้านบนจะตั้งตรง มันจะไม่ได้รับการหมุนมาก ทำให้น้ำหนักไม่ได้ถ่ายเท การเรียนรู้บาลานซ์ เป็นเรื่องที่เด็กควรที่จะเรียนรู้ นอกจากนั้นการนั่งแบบนี้ยังทำให้ข้อต่อของเด็กอาจจะอยูผิดที่ได้ และอาจเกิดปัญหาใหญ่โ๖ขึ้นในอนาคต ถ้านี่เป็นท่านั่งสุดโปรดของลูก คุณควรจที่จะบอกเขาให้เปลี่ยนท่านั่งโดยด่วน
เดินโดยใช้นิ้วเท้า
บางครั้งเด็กจะเริ่มเดิน และเวลาเริ่มเด็กอาจจะเดินแบบนักเต้นบัลเล่ต์ มันอาจจะดูตลกแต่ถ้าคุณเห็นลูกทำแบบนี้บ่อย คุณวรที่จะปรึกษาผู้เี่ยวชาญโดยด่วน เหตุผลที่เด็กเดินแบบนี้บางครั้งอาจจะไม่มีเหตุผล แต่การเดินแบบนี้บ่งบอกถึงปัญหาทางสุขภาพหลายอย่างได้
กัดฟันตอนหลับ
หลายคนเชื่อว่าการกัดฟันตอนหลับนั้นเกิดจากแมลงในฟัน แต่แท้จริงแล้วที่มาที่ไปนั้นไม่แน่ชัด แพทย์กว่าว่าปัญหานี้ส่วนใหญ่มักจะมาจากสองแหล่งที่มาก็คือ ความผิดปกติทางร่างกาย หรือ จิตใจ ความผิดปกติทางจิตใจที่ทำให้เด็กมีอาการนี้อาจจะเกิดจากการที่เด็กมีความเครียดและรู้สึกกดดัน ส่วนความผิดปกติทางร่างกายอาจจะเกิดจากการที่ฟันขึ้นผิดที่หรือผิดปกติ ความพบหมอฟันเพื่อหาคำปรึกษา
ไม่มองตา
หลายคนทราบดีว่านี่เป็นสัญญาณแรกที่บ่งบอกว่าลูกอาจจะเป็นออทิสติค อาการของเด็กที่เป็นออทิสติคมักจะประกอบด้วย ไม่มองตา มีปัญหาด้านการพูด ไม่สามารถบอกได้ว่าต้องการอะไร แต่คุณไม่ควรที่จะคาดการณ์ทุกอย่างจากสัญญาณเล็กๆน้อยๆ ถ้าคุณอยากที่จะทราบจริงๆให้ปรึกษาคุณหมอเพื่อตรวจดูอย่างละเอียดจะดีกว่า เพราะเด็กบางคนอาจจะมีพัฒนาการที่ช้ากว่าเพื่อนก็ได้
เล่นสมาร์ทโฟน
คุณอาจจะรู้ดีอยู่แล้วว่าถ้าลูกเล่น สมาร์ทโฟนมากเกินไปนั้นมันไม่ดีกับเด็ก แต่อีกสิ่งหนึ่งที่ห้ามมองข้ามคือ การที่ลูกนอนเล่นสมาร์ทโฟน หรือ แท็ปเล็ต มันมีความเสี่ยงสูงมากที่ของชิ้นนั้นจะตกลงมาใส่หน้าลูก ยิ่งในเด็กที่กระดูกยังไม่แข็งแรงดีแล้ว มันอาจจะเป็นอันตรายกับเขามากกว่าที่คุณคิด
ลูกโป่ง
เด็กมักจะชอบเอาของเข้าปาก และการที่ลูกโป่งระเบิดในปากเป็นเรื่องที่อันตรายมาก เมื่อลูกโป่งระเบิดแล้วเศษของลูกโป่งอาจจะเข้าสู่หลอดลมและบล๊อกทำให้ลูกหายใจไม่ออกได้
ผ้าปูนิ่มๆ ผ้าห่มนิ่มๆ ตุ๊กตานิ่มๆ
ของน่ารักเหล่านี้มีอันตรายต่อลูกน้อยในแง่ที่ว่า เด็กไม่มีแรงมากพอที่จะดิ้นรนออกจาก ของเหล่านั้นถ้ามันมาปิดการหายใจของเขา
แพ้คาร์ซีท
เด็กบางคนอาจจะมีอาการแพ้คาร์ซีทได้เช่นกัน เพราะวาเด็กอาจจะแพ้วัสดุต่างๆ ผู้ปกครองควรจะเช็ควัสดุที่ใช้ให้ดีเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นกับลูกน้อยของคุณ
เครดิตแหล่งข้อมูล : th.theasianparent.com