“ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้...” หมอมินฯ แนะ เลี้ยงลูก แบบลิเวอร์พูล
จากชัยชนะที่สุดเหลือเชื่อของ "ลิเวอร์พูล" ทีมฟุตบอลดังแห่งเกาะอังกฤษ ด้วยการถล่ม"บาร์เซโลน่า" ทีมอันดับต้นๆ ของโลก ไปด้วยสกอร์ 4 ประตูต่อ 0 ส่งผลให้ลิเวอร์พูลทะลุเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีกได้ในที่สุด
โดยก่อนหน้านั้น "ลิเวอร์พูล" ไปเยือน "บาร์เซโลน่า" และถูกถล่มยับ 3 ประตูต่อ 0 ดังนั้นโอกาสเดียวที่จะเข้าสู่รอบชิงฯ ของทัวร์นาเม้นท์นี้ได้ ก็คือพวกเขาต้องชนะ "บาร์เซโลน่า" 4 ประตูขึ้นไป
เป็นโอกาสเดียวที่น้อยนิดและแทบจะเป็นไปไม่ได้แต่พวกก็สามารถทำให้มันเป็นจริงขึ้นมาได้ !
ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นชัยชนะในเกมการแข่งขันเท่านั้น แต่ยังสร้างแรงบันดาลใจ และเป็นหนึ่งในเรื่องราวที่ถูกหยิบยกมาเอ่ยถึงด้วยความชื่นชมตลอดทั้งวันที่ผ่านมา
โดย หมอมินบานเย็น หรือ พญ.เบญจพร ตันตสูติ แห่ง เพจเข็นเด็กขึ้นภูเขา เพจแนวจิตวิทยาเด็กเเละวัยรุ่น ก็ได้นำเรื่องราวนี้มานำเสนอได้อย่างน่าสนใจ เพื่อเป็นแนวทางให้พ่อแม่ผู้ปกครอง ในการปลูกฝังทัศนคติที่ดีให้กับบุตรหลาน
ซึ่งมีรายละเอียดทั้งหมดดังนี้
#ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้
เมื่อคืนนี้ที่สนามแอนฟิลด์ของลิเวอร์พูล มีการแข่งขันฟุตบอลยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีกรอบรองชนะเลิศนัดที่สอง ระหว่างทีมลิเวอร์พูลและบาร์เซโลน่า ซึ่งในการแข่งนัดแรก บาร์เซโลน่าเอาชนะลิเวอร์พูลไปด้วยสกอร์ 3-0
ทุกคนรู้ดีว่าโอกาสที่ลิเวอร์พูลจะเข้ารอบมีน้อยมาก เพราะจะต้องเอาชนะให้ได้ถึง 4 ลูก แถมจะต้องระวังอย่างหนักที่จะไม่เสียประตูในบ้าน
ความหนักหนาของเกมการแข่งขันคืนนี้สำหรับนักเตะลิเวอร์พูล เปรียบเหมือนพวกเขาต้องฝ่าฟันอุปสรรคที่เหมือนภูเขาลูกใหญ่ที่สูงเสียดฟ้า ที่อะไรๆ ดูเหมือนจะเป็นไปได้ยากยิ่ง
ผู้จัดการทีมของลิเวอร์พูล เจอร์เก้น คลอปป์ ให้สัมภาษณ์ก่อนเกมการแข่งขันจะเริ่มต้น
"ทุกคนที่เชียร์ลิเวอร์พูลรู้ดีว่าการแข่งขันครั้งนี้หนักหนาแค่ไหน ไม่ใช่แค่ต้องเอาชนะให้ได้ แต่ทำอย่างไรเราจึงจะผ่านเข้ารอบ มันเป็นการแข่งขันที่ยากลำบาก แต่ที่เราทำได้คือสู้ให้เต็มที่ การแข่งขันมันยังไม่จบ แล้วลองดูว่าจะเป็นอย่างไร"
แต่สุดท้ายพวกเขาก็ทำได้ ลิเวอร์พูลชนะบาร์เซโลน่าไปได้ 4-0 ในที่สุดพวกเขาก็ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีกเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน
มีคำพูดที่บอกว่า "ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้" ทีมลิเวอร์พูลย้ำให้เราฟังอีกครั้งว่าทุกอย่างเป็นไปได้ ตราบใดที่เรามีความพยายามและความหวัง ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค
ทุกความมุ่งมั่นพยายามล้วนมีคุณค่าเสมอ และจิตใจที่เข้มแข็งกล้าแกร่งเป็นเรื่องสำคัญ
ส่วนหนึ่งของจิตใจที่เข้มแข็งและไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค มองเห็นได้ในทัศนคติของผู้นำ คือผู้จัดการทีมอย่าง เจอร์เกน คลอปป์
มีครั้งหนึ่งที่คลอปป์เคยให้สัมภาษณ์เมื่อราวปีก่อน"ผมคิดว่าสิ่งสำคัญกว่าอะไรต่างๆ คือ ‘ความพยายาม' การทำให้ดีที่สุดในจุดที่เป็นอยู่ มันเป็นสิ่งที่ผมเชื่อ ผมรักความท้าทายและอุปสรรค และผมจะก้าวข้ามมันไปได้เพราะผมไม่ท้อถอย ทำให้ดีที่สุด ซึ่งผมก็ได้เรียนรู้เรื่องเหล่านี้บ้างจากฟุตบอล ชีวิตซึ่งไม่ได้ยืนยาวนักหรอก ดังนั้นจงสนุกกับมันดีกว่า"
ก่อนอื่นหมออยากบอกทุกคนที่ได้อ่านว่า หมอเองไม่ได้เชียร์ลิเวอร์พูล แต่เป็นแฟนแมนยูฯ แต่หมอประทับใจชัยชนะครั้งนี้ของลิเวอร์พูล และโดยเฉพาะอย่างยิ่งทัศนคติของผู้จัดการทีมอย่าง เจอร์เก้น คลอปป์
ในที่สุดชัยชนะของลิเวอร์พูลก็เป็นเครื่องหมายที่พิสูจน์ได้ดีว่า ทุกความพยายามล้วนมีคุณค่าและไม่ควรจะถูกมองข้าม
ในทุกการเดินทางไปสู่เป้าหมาย แม้จะพบอุปสรรคใดๆ สำคัญคือความเชื่อมั่นและพยายาม ถ้าทำเต็มที่แต่ยังไม่สำเร็จ พรุ่งนี้เราเริ่มใหม่ได้อีก
ความแข็งแกร่งไม่ได้เกิดขึ้นเอง แต่เกิดจากการฝึกฝนและความผิดพลาดมาก่อน เราจะไม่มีวันเติบโตสมบูรณ์หากไม่เคยเผชิญหน้าความเจ็บปวดและก้าวข้ามผ่านมัน
ไม่ต้องเปรียบเทียบตัวเรากับใคร เราเป็นเราที่ไม่เหมือนคนอื่นๆ ความเข้มแข็งเกิดจากการยอมรับตัวเองและทำให้ดีที่สุดในแบบของเรา
ชีวิตจริงไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ มีบททดสอบเข้ามาเสมอ
สำหรับพ่อแม่ สิ่งที่ได้เรียนรู้ก็คือ การจะปลูกฝังคุณค่าในตัวเองและความภาคภูมิใจให้ลูก ควรชื่นชมลูกที่กระบวนการมากกว่าผลลัพธ์
แม้ยังไม่สำเร็จเป็นผลลัพธ์ที่เห็นชัดเจนแต่เราก็ยังมุ่งหน้าต่อไปด้วยความเชื่อมั่นและเข้มแข็ง ทำวันนี้ให้ดีที่สุดขอแสดงความยินดีกับแฟนบอลลิเวอร์พูลทุกคนค่ะ ทีมของคุณสุดยอดมากๆ
#หมอมินบานเย็น