คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ ท่าน คงเคยได้ยินชื่อ "โรคส่าไข้" กันมาบ้างแล้ว แต่บางท่านอาจจะเคยได้ยินแต่ยังไม่เข้าใจว่า โรคนี้มีอาการอย่างไร แล้วรักษาแบบไหนถึงจะหาย วันนี้เรามาทำความรู้จักกับโรคนี้ไปพร้อม ๆ กันนะคะ
โรคส่าไข้นั้น เรียกอีกอย่างว่า โรคหัดดอกกุหลาบหรือไข้ผื่นกุหลาบในทารก ค่ะ และจะพบได้ในเด็กเล็กที่มีอายุช่วงระหว่าง 3 เดือนถึง 3 ปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กที่มีอายุระหว่าง 6-12 เดือน แต่จะไม่ค่อยพบในเด็กโตหรือผู้ใหญ่ค่ะ
ทำความรู้จักกับโรคส่าไข้
โรคส่าไข้นี่ เกิดจากเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า Human herpesvirus type 6 (HHV-6) และ Human herpesvirus type 7 (HHV-7) ซึ่งจัดได้ว่าอยู่ในตระกูลจำพวกเดียวกับไวรัสที่ทำให้เกิดโรคเริม โดยเชื้อโรคนั้นจะมีอยู่ในเสมหะและน้ำลายของผู้ป่วย และสามารถติดต่อได้โดยการหายใจเอาเสมหะหรือละอองที่ผู้ป่วยไอหรือจามรดเข้าไป ทั้งนี้ยังสามารถติดต่อได้จากการสัมผัสได้อีกด้วยนะคะ ซึ่งการสัมผัสนั้นไม่ได้เจาะจงแต่เพียงแค่สัมผัสกับผู้ป่วยโดยตรงเท่านั้น แต่ยังหมายความรวมถึงการสัมผัสสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ ที่ผู้ป่วยได้สัมผัสไว้ ยกตัวอย่างเช่น แก้วน้ำ จาน ชาม หนังสือ หรือของเล่น เป็นต้น และเมื่อไหร่ก็ตามที่ลูกของเราไปสัมผัสโดน แล้วเอามือนั้นเข้าปาก ขยี้ตาหรือแคะจมูก เชื้อดังกล่าวก็จะสามารถเข้าสู่ร่างกายของลูกได้
ระยะฟักตัวของโรค : ตั้งแต่ได้รับเชื้อจนแสดงอาการจะใช้เวลาประมาณ 5-15 วัน
ระยะติดต่อ : ตั้งแต่ 2 วันก่อนมีไข้ จนกระทั่งถึง 2 วันหลังไข้ลด
อาการของโรค
ลูกจะมีไข้อย่างฉับพลัน โดยมีไข้สูงประมาณ 39.5 - 40.5 องศาเซลเซียส และมีตัวร้อนอยู่ตลอดเวลา
เด็กบางคนที่ป่วยเป็นโรคนี้ จะยังรับประทานอาหาร ดื่มน้ำและดื่มนมได้ตามปกติ แต่บางรายก็มีอาการหงุดหงิด งอแง และเบื่ออาหาร
บางรายอาจะมีอาการไอ เจ็บคอ มีน้ำมูกใส หรือมีท้องเดินเล็กน้อย
ในขณะที่บางราย อาจมีอาการชักจากไข้ร่วมด้วย