เมื่อกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา เด็กหญิงไพเพอร์ โลว์รี วัย 12 ขวบจากรัฐวอชิงตันมีอาการไข้ขึ้นสูงคล้ายเป็นหวัดธรรมดา แต่เพียงแค่ 4 วันหลังจากนั้น อาการยิ่งทรุดหนักจนเสียชีวิต
แม่เด็กเล่าว่า เธอพาลูกสาวไปหาหมอกินยาไป 2 รอบแล้ว แต่อาการกลับไม่ดีขึ้นเลย ลูกไข้สูง 40 องศาไม่ยอมลด และอาเจียนออกมาเป็นเลือด
สุดท้าย ที่ลานจอดรถก่อนถึงห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาล ไพเพอร์ก็ขาอ่อนล้มลงในอ้อมอกแม่ ทิ้งคำพูดสุดท้ายไว้แค่ "แม่จ๋า"
มันไม่ใช่ไข้หวัดธรรมดา
หมอพบว่า ไพเพอร์เสียชีวิตกะทันหันเพราะอาการแทรกซ้อนที่เกิดจากไวรัสไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A H1N1 หรือไข้หวัดหมู ทำให้ไตทำงานล้มเหลว
อ่านเพิ่มเติม: ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ H1N1 อีกโรคที่แม่ควรรู้จักและป้องกันให้ลูก
ตามปกติแล้ว คนที่สุขภาพดี ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ก็สามารถหายจากหวัดได้เองหรือกินยานิดหน่อยก็หายแล้ว แต่ทารก เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้ใหญ่อายุเกิน 65 ปี และคนป่วยที่ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ มีโอกาสเสี่ยงเกิดอาการแทรกซ้อนจากหวัด
"เรื่องเศร้าที่เกิดกับไพเพอร์เตือนเราว่า โรคไข้หวัดใหญ่อาจรุนแรงกว่าที่คิด โดยเฉพาะกับเด็กเล็ก ๆ" คุณหมอซูซาน เทิร์นเนอร์ จากสำนักงานสาธารณสุขท้องถิ่นแสดงความคิดเห็น พร้อมย้ำว่า
"อย่าลืมพาลูกหลานรวมทั้งตัวคุณเองไปฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ด้วย เพราะวัคซีนจะช่วยป้องกันลูก ๆ คุณจากหวัดได้ดีที่สุด"
เมื่อเป็นหวัดแล้ว ต้องพักผ่อนเยอะ ๆ หมั่นล้างมือเป็นประจำ ปิดปากและจมูกทุกครั้งที่ไอหรือจาม
และถ้าลูกคุณส่งสัญญาณเหล่านี้ ควรรีบไปหาหมอด่วน
ไข้ทุกชนิด ในกรณีเด็กทารกแรกเกิด - 2 เดือน
หายใจเร็ว หรือติดขัด
ร่างกายขาดน้ำ
มีไข้ และผื่นขึ้น
อาการคล้ายหวัด แต่ไข้สูง และไอรุนแรง
เด็กงอแง ดิ้นหนัก ไม่ยอมให้อุ้มเพราะไม่สบายตัว
ระวัง! อย่ารอจนสายเกินไป โรคภัยไข้เจ็บอาจพรากชีวิตลูกรักไปจากคุณได้
"ชีวิตมันสั้น เราไม่รู้เลยว่าใครจะไปเมื่อไร" คุณแม่ผู้สูญเสียลูกสาวกล่าวทิ้งท้าย "เพราะฉะนั้น เก็บเกี่ยวช่วงเวลาดี ๆ ทุกวินาทีที่ได้อยู่กับลูกให้มากที่สุดเถอะค่ะ"