แพทย์เตือน ปลายฝนต้นหนาว ระวัง RSV ในเด็กเล็กเสี่ยงเสียชีวิต
วันที่ 31 ต.ค.2563 พญ.ณัชชา สากระจาย กุมารแพทย์เฉพาะทางโรคระบบทางเดินหายใจเด็ก รพ.พริ้นซ์ อุบลราชธานี กล่าวว่า เชื้อไวรัส RSV หรือ Respiratory Syncytial Virus แพร่กระจายจากคนสู่คนผ่านทางละอองฝอยขนาดใหญ่ และการสัมผัส เชื้อและไปสัมผัสที่ตาหรือจมูก ก่อให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจได้ทั้งส่วนบนและส่วนล่าง ทำให้ร่างกายผลิตเสมหะออกมาจำนวนมาก ไวรัสสามารถอยู่ในสิ่งแวดล้อมได้ประมาณ 24 ชั่วโมง มักจะก่อให้เกิดอาการรุนแรงในเด็กเล็กโดยเฉพาะช่วงปลายฝนต้นหนาว
พญ.ณัชชา กล่าวว่า ผู้ที่ติดเชื้อ RSV จะปล่อยเชื้อไวรัสออกจากสารคัดหลั่งประมาณ 2 สัปดาห์ ผู้ที่ได้รับเชื้อ RSV เข้าสู่ร่างกายจะใช้ระยะฟักตัว 3-5 วัน ก่อนเริ่มแสดงอาการซึางคล้ายกับไข้หวัดธรรมดา แต่อาการแสดงทางคลินิกของผู้ป่วยติดเชื้อ RSV จะมีความแตกต่างกันไปตามวัย
หากเกิดในผู้ใหญ่ที่เป็นโรคปอด โรคหัวใจ ก็เป็นกลุ่มเสี่ยง แต่ในกรณีเด็กเล็กๆ ที่ภูมิคุ้มกันยังต่ำ อาจทำให้มีอาการรุนแรง โดยเฉพาะเด็กเล็ก 3-5 ขวบ ซึ่งแสดงอาการต่างกันตามช่วงวัย
ดังนี้ 1.ทารกคลอดก่อนกำหนดและทารกในช่วงเดือนแรก จะมีอาการดูดนมน้อยลง ซึมลง บางรายมีอาการหยุดหายใจ อาจมีอาการคล้ายการติดเชื้อในกระแสเลือดได้
2.เด็กช่วง 2 ขวบปีแรก มักเริ่มจากอาการไข้ต่ำๆ น้ำมูก จาม นำมาก่อน 1-3 วัน ต่อมาเริ่มมีอาการไอ หายใจเร็วขึ้น หายใจลำบาก บางรายมีการติดเชื้อของระบบหายใจส่วนล่าง ได้แก่ ภาวะหลอดลมฝอย หรือหลอดลมส่วนปลายอักเสบ หากเชื้อลุกลามไปยังถุงลมจะเกิดภาวะปอดอักเสบได้
3.เด็กอายุ 2-5 ปี นอกจากทำให้เกิดการติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจส่วนล่างแล้ว ยังทำให้เกิดการติดเชื้อของระบบทางเดินหายใจส่วนบน และเกิดกลุ่มอาการ Croup (การอักเสบของกล่องเสียงและทางเดินหายใจส่วนบน) ได้
พญ.ณัชชา กล่าวว่า การวินิจฉัยผู้ติดเชื้อ RSV ทำได้โดยการตรวจทางไวรัสวิทยา และภาพถ่ายรังสีปอด การรักษาเป็นการรักษาตามอาการ ได้แก่ การให้ยาลดไข้ ยาแก้ไอขับเสมหะ ยาลดน้ำมูก ปัจจุบันยังไม่มียาต้านไวรัสและไม่มีวัคซีนป้องกัน แต่อยู่ระหว่างวิจัยพัฒนา การป้องกันลูกน้อยด้วยการให้นมแม่ ช่วยป้องกันโรคติดเชื้อ RSV ชนิดรุนแรงในช่วงวัยทารก และภูมิคุ้มกันจากมารดา anti-RSV IgG ที่ส่งผ่านทางรกช่วยลดการติดเชื้อ RSV ในทารกช่วง 4 เดือนแรกได้
ผู้ปกครองที่มีลูกป่วยควรแยกเด็กออกจากเด็กปกติ รวมถึงของใช้ส่วนตัว เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อให้กับผู้อื่น ถ้าเข้าเนิร์สเซอรีหรือโรงเรียนแล้ว ควรให้ลูกหยุดเรียนอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์จนกว่าจะหายเป็นปกติ
นอกจากนี้ล้างมือด้วยสบู่ทุกครั้งก่อนจับหรือดูแลเด็ก หลีกเลี่ยงการจูบหรือหอมเด็ก เพราะอาจเป็นการแพร่เชื้อโดยไม่รู้ตัว ใส่หน้ากากอนามัยป้องกันหากมีการสัมผัสผู้ป่วย ดูแลบุตรหลานให้อยู่ห่างผู้ป่วยที่สงสัยว่าติดเชื้อ และไม่นำบุตรหลานไปในที่ชุมชนสถานที่ที่มีคนเยอะก็จะสามารถหลีกเลี่ยงโอกาสสัมผัสโรคนี้ได้
เรื่องที่เกี่ยวข้อง
- หมอยง เผย RSV ระบาดมากในเด็กเล็ก หากหนักมากควรปิดชั้นเรียน
- ใจแม่แทบขาด!ลูกป่วยติดเชื้อRSV ซ้ำร้ายรพ.เตียงเต็ม
- เตือน! RSV ระบาดหนักกว่าโควิด เด็กป่วยแน่นรพ.ทั่วประเทศ
- แม่โพสต์เศร้า เสียลูกน้อยวัยเพียง 10 เดือน ด้วยโรคร้าย RSV
- อุทาหรณ์ เด็กวัย 5 เดือน ติดเชื้อไวรัส RSV เพราะถูกคนไม่รู้จักหอมแก้ม
>> ดูทั้งหมด :โรคRSVในเด็กระบาดหนัก