1.เจ็บท้องเตือนไตรมาสสุดท้าย
2.เจ็บท้องเตือนก่อนคลอด
อาการจะแตกต่างจากเจ็บท้องเตือนในช่วงระยะเวลาท้องในไตรมาสสุดท้ายที่มักจะเป็นๆ หายๆ การเจ็บท้องเตือนก่อนคลอดจะเกิดขึ้นก่อนประมาณหนึ่งสัปดาห์ก่อนถึงกำหนดคลอด ถือเป็นการอุ่นเครื่องก่อนจะเจ็บจริง อาการนี้มักจะเจ็บถี่ขึ้นเพื่อเป็นสัญญาณในการเตรียมพร้อมของร่างกาย คุณแม่ต้องเริ่มคอยสังเกตอาการที่เกิดขึ้นในระยะนี้
3.มีมูกเลือดไหลออกมาทางช่องคลอด
มูกเลือดที่ว่านี้เกิดจากร่างกายสร้างขึ้นเพื่อปิดปากมดลูกไว้เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อโรคเข้าไปในมดลูกในระหว่างตั้งครรภ์ ถือเป็นปราการด่านแรกที่ปกป้องเจ้าตัวน้อยในครรภ์ เมื่อถึงช่วงเวลาใกล้คลอดเจ้ามูกเลือดนี้จะหลุดออกมาก่อน และอาจมีเลือดผสมออกมา เนื่องจากเกิดการแตกของเส้นเลือดเล็กๆ บริเวณปากมดลูก อาการแบบนี้เรียกว่าปากมดลูกเปิดแล้ว รีบคว้ากระเป๋าไปพบคุณหมอได้เลยค่ะ
4.น้ำเดิน
หรือที่เรียกกันว่าถุงน้ำคร่ำแตก น้ำที่ออกมาจะเป็นลักษณะใสๆ คล้ายน้ำปัสสาวะ อาการถุงน้ำคร่ำแตกแสดงถึงมดลูกเริ่มบีบตัวหดเล็กลงเพื่อบีบให้ศีรษะของเด็กเคลื่อนลงสู่อุ้งเชิงกราน หากคุณแม่เกิดอาการแบบนี้แล้ว ควรรีบไปโรงพยาบาลด่วน เพราะเป็นสัญญาณสำคัญของการคลอดที่กำลังจะมาถึง
5.การเจ็บท้องจริง
คุณแม่จะรู้สึกเจ็บเป็นระยะต่อเนื่องและถี่ขึ้น อาการเจ็บท้องจริงจะคล้ายกับตอนที่เจ็บท้องมีประจำเดือน แต่จะเริ่มปวดถี่แรงขึ้นเป็นจังหวะ การปวดระยะแรกจะนานประมาณ 1-2 นาที และจะเกิดในทุกๆ 10-15 นาที หลังจากนั้นจะเริ่มปวดกระชั้นเข้ามาทุก 5 นาที อาการแบบนี้คุณแม่เตรียมหิ้วกระเป๋าไปพบคุณหมอได้แล้วคะ เพราะนี่คือการส่งสัญญาณในการลืมตาดูโลกของเจ้าตัวน้อยนั่นเอง
ช่วงเดือนสุดท้ายก่อนคลอด เมื่อคุณแม่เริ่มเจ็บท้องผิดปกติ แสดงว่าอาการเหล่านี้ได้ส่งสัญญาณเตือนมาแล้ว คุณแม่สามารถเตรียมตัวเก็บกระเป๋าสำหรับคุณแม่และลูกน้อยไว้ได้เลย เพื่อได้ไม่ฉุกละหุกเมื่อถึงวันนั้นจริงๆ เป็นกำลังใจให้คุณแม่นะคะ