คุณแม่มือใหม่ควรรู้ ความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นกับคนท้องและพัฒนาการของลูกในครรภ์

คุณแม่มือใหม่ควรรู้ ความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นกับคนท้องและพัฒนาการของลูกในครรภ์


คุณแม่มือใหม่ควรรู้ ความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นกับคนท้องและพัฒนาการของลูกในครรภ์

คุณแม่มือใหม่ควรรู้ ความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นกับคนท้องและพัฒนาการของลูกในครรภ์

การเป็นคนท้องมักจะทำให้เกิดความกังวลใจหลายประการสำหรับคุณแม่มือใหม่ เหตุผลเพราะในระยะตั้งครรภ์เป็นเวลานานกว่า 9 เดือนนั้นจะมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นหลายอย่างทั้งด้านสุขภาพร่างกายภายในและรูปลักษณ์ภายนอกของคุณแม่รวมถึงมีความกังวลใจว่าลูกน้อยจะมีพัฒนาการที่ดีหรือไม่ ปัจจัยเหล่านี้อาจทำให้คุณแม่เกิดความวิตกกังวลมากจนเกินไปซึ่งอาจก่อให้เกิดผลเสียต่อการตั้งครรภ์และการเจริญเติบโตของลูกในครรภ์ ยกตัวอย่างเช่น ความกังวลสะสมเป็นความเครียดสำหรับท้องแรกของคุณแม่มือใหม่ ส่งผลเสียต่อพัฒนาการด้านร่างกายและสมองของลูก เพื่อความสบายใจของคุณแม่และเพื่อการเจริญเติบโตของทารก ความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นต่อไปนี้จะช่วยให้คุณแม่มือใหม่วางใจได้ว่า การตั้งครรภ์ ในครั้งแรกไม่ใช่เรื่องน่าวิตกกังวล เพราะหากเข้าใจข้อเท็จจริงในการดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม นอกจากจะช่วยให้คุณแม่สบายใจแล้ว ยังส่งผลดีต่อการเจริญเติบโตในด้านต่าง ๆ ของลูกน้อยในครรภ์อีกด้วย

ความเปลี่ยนแปลงด้านร่างกายที่จะเกิดขึ้นกับคุณแม่ตั้งครรภ์

คุณแม่มือใหม่ควรรู้ ความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นกับคนท้องและพัฒนาการของลูกในครรภ์

     ความกังวลที่เกิดขึ้นกับคนท้อง โดยเฉพาะคุณแม่มือใหม่ที่กำลังท้องมีสาเหตุมาจากคุณแม่ไม่ทราบว่าร่างกายจะเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง ความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ที่จะเกิดขึ้นจึงเป็นเรื่องที่ควรรู้เพื่อคลายความกังวลและเพื่อดูแลสุขภาพร่างกายอย่างเหมาะสม

     ความเปลี่ยนแปลงทางร่างกายที่จะเกิดขึ้นกับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์จะเกิดขึ้นเริ่มตั้งแต่เดือนแรกโดยจะสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงหลายประการด้วยกัน เช่น เต้านมและหัวนมซึ่งจะมีความรู้สึกอ่อนไหว เส้นเลือดบริเวณเต้านมจะนูนขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัดอาการปัสสาวะบ่อยกว่าปกติ มีน้ำไหลออกมาจากช่องคลอดหรือเกิดตกขาวเล็กน้อยซึ่งถือเป็นเรื่องปกติของการตั้งครรภ์

     นอกจากร่างกายมีความเปลี่ยนแปลงในระยะแรก อายุครรภ์ ที่เพิ่มขึ้นยังส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ ด้วย สังเกตเห็นได้ชัดเจนคือขนาดหน้าท้องที่ใหญ่ขึ้นจากการเจริญเติบโตของทารกและการทำงานของระบบอื่น ๆ ในร่างกายที่เปลี่ยนไปในช่วงเดือนที่ 4-5 คุณแม่จะมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในระบบทางเดินหายใจ ขณะตั้งท้องร่างกายของคุณแม่จะเหนื่อยง่าย หายใจเข้าออกลดลงหรือในบางรายรู้สึกหายใจลำบาก ระบบทางเดินอาหารในขณะที่มีการตั้งครรภ์จะมีการสร้างกรดต่าง ๆ เพิ่มขึ้น ซึ่งทำให้เกิดภาวะกรดไหลย้อน เป็นต้น

     อาการเหล่านี้เป็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในคนท้องที่อาจทำให้คุณแม่เกิดความกังวลว่าเป็นความผิดปกติของร่างกาย ซึ่งแท้จริงแล้วถือเป็นเรื่องปกติที่จะเกิดขึ้นในระยะแรกของการตั้งครรภ์รวมไปถึงตลอดระยะเวลาท้อง 9 เดือนด้วย เพื่อความสบายใจคุณแม่ควรรับฟังคำปรึกษาจากแพทย์ดีกว่าคาดเดาอาการที่เกิดขึ้นด้วยตัวเอง

คุณแม่มือใหม่ควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับพัฒนาการของลูกในครรภ์

คุณแม่มือใหม่ควรรู้ ความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นกับคนท้องและพัฒนาการของลูกในครรภ์

เมื่อคลายความกังวลจากความเข้าใจเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงของร่างกายที่เกิดขึ้นขณะการตั้งครรภ์แล้ว สิ่งสำคัญที่สุดประการหนึ่งคือคุณแม่มือใหม่ควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับพัฒนาการการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ในทุกช่วงอายุของการตั้งครรภ์ ด้วยเหตุผลว่าในแต่ละระยะอายุครรภ์ทารกจะต้องได้รับการส่งเสริมพัฒนาการอย่างเหมาะสม โดยผู้เป็นแม่จะต้องทำหน้าที่กระตุ้นการเจริญเติบโตของลูกในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเจริญเติบโตของสมอง การรับรู้ ด้านร่างกายและระบบอื่น ๆ เพื่อให้ลูกพร้อมจะเติบโตจากทารกเป็นเด็กวัยแรกเกิดที่มีความสมบูรณ์ มีความฉลาดทั้งด้านอารมณ์และสติปัญหา สำหรับคุณแม่มือใหม่ที่ไม่มีประสบการณ์ในการกระตุ้นพัฒนาการลูกตั้งแต่อยู่ในครรภ์มาก่อนควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับสาระสำคัญเหล่านี้

กระตุ้นการเจริญเติบโตของทารกให้สอดคล้องกับอายุครรภ์

เพราะแต่ละระยะการตั้งครรภ์คุณแม่จะต้องกระตุ้นพัฒนาการของลูกอย่างเหมาะสมยกตัวอย่างเช่น ในช่วงการตั้งท้อง 1เดือนแรกเป็นช่วงพัฒนาการของหลอดประสาท เพื่อเจริญเติบโตกลายเป็นสมองไขสันหลังต่อไป ช่วงนี้คุณแม่จะมีส่วนช่วยในการกระตุ้นการเจริญเติบโตของลูกคือควรเลือกรับประทานปลาที่มีไขมัน เพื่อช่วยป้องกันความผิดปกติแต่กำเนิด เพื่อทราบแนวทางในการดูแลครรภ์อย่างถูกต้องเป็นช่วงที่คุณแม่ควรฝากครรภ์กับแพทย์ เนื่องจากคุณหมอจะเป็นผู้ตรวจร่างกายทั้งสุขภาพของผู้เป็นแม่และลูกน้อยในครรภ์ส่วนการกระตุ้นการเจริญเติบโตของทารกในช่วงเดือนที่ 2 เป็นช่วงที่ร่างกายทุกส่วนของทารกเริ่มเคลื่อนไหวได้ในระยะนี้คุณแม่มีส่วนช่วยในการกระตุ้นพัฒนาการลูกคือจะต้องวางแผนการรับประทานอาหารในแต่ละมื้อเพื่อให้ลูกได้รับสารอาหารที่เพียงพอต่อการเจริญเติบโตและการเคลื่อนไหวของอวัยวะ สำหรับอาหารที่จะช่วยกระตุ้นพัฒนาการของลูก ได้แก่ ถั่ว เต้าหู้ นมถั่วเหลืองและผักใบเขียว เป็นแหล่งรวมสารอาหารที่อุดมด้วยแคลเซียมสูงที่คุณแม่ควรจะรับประทานอย่างสม่ำเสมอในช่วงของการตั้งท้องในเดือนที่ 2

คุณแม่มือใหม่ควรรู้ ความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นกับคนท้องและพัฒนาการของลูกในครรภ์

     จากระยะของอายุครรภ์2 เดือนแรกที่นำมายกตัวอย่าง แม้จะเป็นระยะเวลาที่ใกล้เคียงกันแต่วิธีกระตุ้นการเติบโตของลูกทั้งด้านสมองและร่างกายจะมีความแตกต่างกันอยู่ คุณแม่จึงควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมหรือสอบถามจากแพทย์ผู้ดูแลครรภ์ว่าจะต้องรับประทานอาหารอย่างไรหรือใช้วิธีใดในการส่งเสริมให้ลูกมีความสมบูรณ์แข็งแรงสามารถช่วยกระตุ้นให้ลูกมีการเจริญเติบโตที่สมบูรณ์ อวัยวะแข็งแรง และมีพัฒนาการ ทางสมองที่ดี หากทราบแล้วควรปฏิบัติอย่างไรคุณแม่ควรทำตามอย่างสม่ำเสมอ ผ่อนคลายความกังวลต่อความเปลี่ยนแปลงของสภาพร่างกายและใส่ใจอย่างจริงจังในการเลือกสรรอาหารบำรุงครรภ์ตามหลักโภชนาการหรือหลักของการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เพื่อสุขภาพที่ดีของแม่และลูกน้อย

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
ตามข่าวteenee.com จาก LineToday เข้าไปคลิ๊กกดติดตามได้เลย
กระทู้เด็ดน่าแชร์