คุณแม่ตั้งท้องอายุครรภ์ 5 สัปดาห์ ควรดูแลตัวเองและลูกอย่างไรดี?

เพราะการตั้งครรภ์คือเรื่องใหญ่ที่สร้างความตื่นเต้นให้กับคุณแม่ คำถามมากมายจะเกิดขึ้นและวนเวียนอยู่ในหัวจนกว่าจะได้คำตอบที่ชัดเจนจากแพทย์ว่าการตั้งครรภ์ของตนเองสมบูรณ์ไหมลูกน้อยมีความสมบูรณ์หรือความผิดปกติใด ๆ หรือเปล่า คำถามเหล่านี้เป็นคำถามที่คุณแม่ตั้งครรภ์จะเกิดความสงสัยตั้งแต่เริ่มต้นไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่คนเป็นแม่จะต้องดูแลสุขภาพร่างกายของตัวเองเป็นพิเศษโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงอายุครรภ์ 5 สัปดาห์ ด้วยเหตุผลว่าในช่วงอายุครรภ์ 5 สัปดาห์ร่างกายของคุณแม่จะมีความเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องและมีการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ไปพร้อม ๆ กันที่ซึ่งเป็นช่วงที่คุณแม่จะต้องส่งเสริมและกระตุ้นพัฒนาการของลูกน้อยควบคู่กันไปกับการดูแลตัวเอง ด้วยความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้อาจทำให้คุณแม่ตั้งท้องอายุครรภ์ 5 สัปดาห์เกิดความกังวลว่าควรจะดูแลตัวเองและลูกอย่างไรดี เพื่อให้ทั้งร่างกายตัวเองแข็งแรงและในขณะเดียวกันลูกน้อยในครรภ์ก็ได้รับการส่งเสริมพัฒนาการอย่างเต็มที่ไปด้วยวันนี้เราเลยมีวิธีการดูแลต่าง ๆ สำหรับคุณแม่อายุครรภ์ 5 สัปดาห์มาฝากกัน ซึ่งวิธีเหล่านี้จะส่งผลดีต่อทั้งกับคุณแม่และลูกน้อยในครรภ์อีกด้วยค่ะ


คุณแม่อารมณ์ดีส่งผลดีต่อพัฒนาการทางด้านสมองของทารกในครรภ์

เพราะอารมณ์ของคุณแม่ส่งผลต่อพฤติกรรมของลูกหลังคลอด เช่น หากคุณแม่ตั้งครรภ์อยู่ในภาวะอารมณ์เศร้า โมโหร้ายบ่อย หรือมีอารมณ์ด้านลบ สิ่งเหล่านี้จะส่งผลร้ายต่อทารกในครรภ์ ทำให้พัฒนาการของทารกในครรภ์ได้รับผลกระทบ ทำให้ทารกในครรภ์รู้สึกไม่สบายเหตุผลเพราะเมื่อคุณแม่มีอารมณ์โมโหและหงุดหงิดระดับความดันโลหิตหรือความดันเลือดเพิ่มสูงขึ้นส่งผลให้ลูกรู้สึกไม่สบายได้ ในทางตรงกันข้ามหากคุณแม่อารมณ์ดี ความดันเลือดไหลเวียนดีร่างกายจะหลังสารแห่งความสุขหรือสารเอนดอร์ฟิน ส่งผลให้อวัยวะต่าง ๆ ทำงานได้ดีและส่งผลดีต่อพัฒนาการของทารกในครรภ์ ด้วยเหตุผลเหล่านี้คุณแม่จึงจะต้องดูแลสุขภาพจิตใจให้อารมณ์ดีอยู่เสมอด้วยการฝึกทำสมาธิหรือทำกิจกรรมง่าย ๆ ที่ชื่นชอบและส่งผลดีต่อจิตใจ เช่น การฟังเพลง อ่านหนังสือ เป็นวิธีช่วยให้คุณแม่มีจิตใจที่ผ่องใสส่งผลดีต่อลูกในท้อง

รับประทานอาหารให้เพียงพอทั้งต่อตนเองและทารกในครรภ์

ทารกในครรภ์จะได้รับสารอาหารที่เพียงพอหรือไม่ขึ้นอยู่กับการรับประทานอาหารของคุณแม่ เพราะสารอาหารที่ลูกจะได้รับนั้นถูกส่งต่อผ่านสายสะดือของคุณแม่ ในช่วงการตั้งครรภ์ไม่เพียงจะต้องทำจิตใจให้ผ่อนคลายสบายใจ เพราะเรื่องโภชนาการหรือการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายก็เป็นอีกหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลต่อพัฒนาการของลูกในท้องโดยตรง วิธีดูแลตัวเองและลูกน้อยในท้องที่ดีที่สุดคือคุณแม่จะต้องเลือกรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ในปริมาณที่เพียงพอต่อลูก ไม่อดอาหารและควรกินอาหารเฉลี่ย 5-6 มื้อต่อวัน โดยจะต้องเป็นมื้ออาหารย่อย ๆ ในปริมาณที่พอดีและเป็นอาหารที่มีสารอาหารหลากหลาย ยกตัวอย่างเช่น ในมื้อหลักควรรับประทานอาหารเน้นโปรตีน มื้ออื่น ๆ เน้นสารอาหารบางอย่างที่ขาดไปในมื้อหลัก เช่น ผลไม้ โยเกิร์ต เป็นการกินที่ช่วยให้คุณแม่ตั้งท้องอายุครรภ์5 สัปดาห์ได้รับประโยชน์เพียงพอต่อร่างกายและส่งผลดีต่อลูกในท้องโดยไม่ทำให้คุณแม่รู้สึกอึดอัด เพราะสารอาหารที่คุณแม่ได้รับครบถ้วนจะช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของอวัยวะและพัฒนาการทางด้านสมองของลูก

ออกกำลังกายอย่างเหมาะสมเพื่อความสมบูรณ์แข็งแรงของคุณแม่และส่งผลดีต่อพัฒนาการลูก

    เพราะคุณแม่จะต้องรับประทานอาหารมากกว่าคนปกติด้วยเหตุผลว่าจะต้องแบ่งสารอาหารให้กับลูกน้อยในครรภ์ ระหว่างตั้งครรภ์หากคุณแม่รับประทานมากแต่ไม่ออกกำลังกายร่างกายอย่างสม่ำเสมอ ร่างกายจะเกิดภาวะอ้วนง่ายเนื่องจากในระยะตั้งครรภ์ร่างกายจะดึงคาร์โบไฮเดรตไปใช้งานน้อย สารอาหารนี้แม้จำเป็นต่อร่างกายแต่หากสะสมมากเกินไปจะเปลี่ยนเป็นไขมันทำให้ภาวะอ้วนนี้ส่งผลให้คุณแม่บางคนอดอาหารเพราะกลัวว่าจะอ้วน ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ส่งผลเสียต่อลูกในท้องโดยตรงทำให้ลูกขาดสารอาหารจำเป็นที่จะนำไปกระตุ้นพัฒนาการทางสมอง ในช่วงตั้งครรภ์คุณแม่จึงควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอควบคู่ไปกับการรับประทานอาหารให้เพียงพอ ยกตัวอย่างเช่นคุณแม่ท้อง 5 เดือน แม้จะเป็นช่วงที่ต้องระมัดระวังหากจะออกกำลังกายเพราะระยะท้อง 5 เดือนมดลูกจะกดทับเส้นเลือด คุณแม่ไม่ควรยืนนาน ๆ จึงควรเลือกวิธีออกกำลังกายด้วยการนั่งทำสมาธิทำโยคะท่าง่าย ๆ เพื่อยืดกล้ามเนื้อ วิธีนี้จะทำให้คุณแม่มีสุขภาพครรภ์ที่ดีหลังคลอดไม่อ้วนและที่สำคัญจะทำให้ลูกได้รับสารอาหารอย่างเต็มที่เพื่อร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรง

    ความผ่อนคลายและจิตใจแจ่มใสจากการออกกำลังกายของคุณแม่ตั้งครรภ์ นอกจากจะส่งผลดีต่อสุขภาพคุณแม่แล้ว ยังส่งผลดีต่อพัฒนาการของลูกน้อยในครรภ์ด้วย เช่น การออกกำลังกายในน้ำ เมื่อคุณแม่เคลื่อนไหวลูกน้อยจะได้สัมผัสผนังด้านในของมดลูก เป็นการออกกำลังกายที่จะช่วยพัฒนาเส้นใยสมองและส่งเสริมทักษะการรับรู้ของลูกได้

     การดูแลสุขภาพครรภ์เป็นสิ่งสำคัญที่คุณแม่ไม่ควรมองข้ามอย่างเด็ดขาด คุณแม่จะต้องดูแลตัวเองและลูกน้อยในครรภ์อย่างถูกต้องและเหมาะสมเพื่อการเจริญเติบโตทางด้านร่างกายและพัฒนาการสมองที่ดีของทารกในครรภ์โดยการดูแลสุขภาพครรภ์ที่ถูกต้องจะต้องเข้าใจการนับอายุครรภ์หรือการคำนวณว่า ณ เวลานั้นมีอายุครรภ์แล้วกี่สัปดาห์หรือกี่เดือนเพราะการนับอายุครรภ์เป็นปัจจัยในการกำหนดว่าควรดูแลสุขภาพครรภ์อย่างไรให้เหมาะสม ไม่เฉพาะระยะอายุครรภ์ 5 สัปดาห์หรือตั้งท้อง 5 เดือนเท่านั้น การตั้งท้องในระยะอื่น ๆ ก็มีความสำคัญมากเช่นกัน โดยควรปรึกษาแพทย์ตั้งแต่การนับอายุครรภ์และการส่งเสริมพัฒนาการลูก เพื่อให้ทราบแนวทางในการดูแลสุขภาพครรภ์อย่างเหมาะสม หากใส่ใจดูแลตัวเองและลูกน้อยในท้องแล้วในทุกด้าน ก้าวแรกของลูกเมื่อเขาลืมตาดูโลกจะเป็นก้าวแรกที่มั่นคงและแข็งแรง