15 อาการหลังคลอดลูก ที่ต้องเจอแน่หลังออกจากห้องคลอด

อาการหลังคลอดลูก 15 อาการ เพราะผู้หญิงตั้งครรภ์ส่วนใหญ่มักหาข้อมูลเกี่ยวกับอาการตอนที่ท้องกับตอนคลอดลูก แต่มักมองข้ามอาการหลังการคลอด จริง ๆ แล้วการเตรียมตัวรับมือกับอาหารหลังคลอดก็สำคัญ จะได้หมดกังวลว่าอาการที่คุณเป็นอยู่ผิดปกติหรือไม่

1. เจ็บช่องคลอดสุด ๆ
สำหรับคนที่คลอดด้วยวิธีธรรมชาติ อาการเจ็บช่องคลอดจะยังคงมีอยู่ประมาณ 7-10 วันหลังจากที่คลอดลูก หลังจากนั้นจะค่อย ๆ หายเจ็บไป ดูวิธีดูแลแผลฝีเย็บได้ที่นี่

2. เจ็บแผลผ่าคลอด
สำหรับคนที่คลอดด้วยวิธีผ่าคลอด C-Section จะเจ็บแผลนานกว่าและหนักกว่าคนที่คลอดเอง ช่วง 1-2 วันแรกนั้น การลุกนั่งจะทำได้ค่อนข้างยาก เพราะยังเจ็บแผลอยู่

3. น้ำคาวปลา
น้ำคาวปลา คือเลือดที่ออกมาหลังคลอด เกิดขึ้นเพราะเยื่อบุโพรงมดลูกหลุดออกมาบางส่วน ไม่ว่าคุณจะคลอดแบบไหน ก็มีน้ำคาวปลาเหมือนกันหมด ให้คุณเตรียมผ้าอนามัยแบบกลางคืน หรืออย่างหนาเอาไว้ เพราะคุณจะมีเลือดออกเหมือนประจำเดือนมา แต่ปริมาณจะมากกว่า โดยผู้หญิงหลังคลอดจะมีน้ำคาวปลาประมาณ 4-6 สัปดาห์ โดยปริมาณจะน้อยลงเรื่อย ๆ

4. ปวดท้องน้อย
อาการปวดท้องน้อยอาจเกิดขึ้นกับคุณแม่บางคนหลังคลอด 2-3 วัน เหมือนอาการปวดประจำเดือน เกิดขึ้นเพราะมดลูกกำลังปรับคืนสู่สภาพเดิมเหมือนก่อนมีลูก คนที่มีลูกคนที่ 2 ขึ้นไปจะยิ่งปวดกว่าเดิม เพราะมดลูกต้องปรับตัวมากขึ้น

5. เจ็บเวลาปัสสาวะ
คนที่คลอดเองจะมีอาการเจ็บและบวมบริเวณช่องคลอด ทำให้ปัสสาวะได้ลำบากกว่าปกติ บางทีเวลาที่คุณหัวเราะหรือไอก็อาจจะมีฉี่เล็ดออกมาได้ แนะนำให้ออกกำลังกระชับช่องคลอด เมื่อคุณพร้อม

6. เหงื่อออกมากกว่าปกติ
ความรู้สึกร้อนทำให้เหงื่อไหลออกมาหลังคลอดมากเป็นพิเศษ อาการนี้เกิดขึ้นเพราะร่างกายกำลังปรับตัวกับฮอร์โมนและระดับเลือดที่เปลี่ยนแปลงหลังคลอดลูก

7. หายใจได้สะดวกขึ้น
เมื่อไม่มีลูกมากดดันอวัยวะภายในของคุณแล้ว คุณสามารถนอนราบได้อย่างสบาย ไม่ว่าจะนอนหงาย นอนคว่ำ และการหายใจจะสะดวกขึ้นอย่างสังเกตได้ชัด อาการกรดไหลย้อนที่เคยเป็นก็จะหายไปเช่นกัน

8. เจ็บทวาร
คุณแม่บางคนมีอาการริดสีดวงทวาร ซึ่งอาจเกิดจากการยืดขยายช่วงที่คลอดลูก ทำให้บริเวณนั้นอ่อนไหวเป็นพิเศษ ให้คุณนอนแช่ในน้ำอุ่น คุณอาจจะปรึกษาแพทย์ก็ได้ว่ามีครีมชนิดไหนช่วยได้บ้าง

9. Baby Blue
ผู้หญิงหลายคนมีอาการ Baby Blue อาการนี้เกิดขึ้นได้หลังคลอดเพราะระดับฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง แต่หลังจากที่ได้หลับนาน ๆ เพื่อฟื้นร่างกาย คุณก็จะกลับมาเป็นปกติ อาการ Baby Blue แตกต่างจากอาการซึมเศร้าหลังคลอด (Post-partum depression) ที่มีอาการรุนแรงกว่าและนานกว่า ถ้าคุณรู้สึกเครียดมาก หรือมีอาการอยากทำร้ายลูก อยากทำร้ายร่างกายตัวเอง ต้องตั้งสติดี ๆ และปรึกษาแพทย์ทันที

10. ท้องผูก
อาการท้องผูกหลังคลอด เกิดขึ้นเพราะริดสีดวงนั่นแหละ แม้แต่คนที่ผ่าคลอดบุตรก็อาจจะมีอาการท้องผูกได้ เพราะได้แต่นอนเฉย ๆ เพราะเจ็บแผล เมื่อคุณหมออนุญาต ให้เริ่มเดินช้า ๆ ในบริเวณโรงพยาบาล นอกจากนั้นก็ดื่มน้ำเยอะหน่อย และทานอาหารที่มีกากใยก็ช่วยได้เยอะ

11. ยังมีพุงเหมือนคนท้อง 6 เดือน
บางคนนึกว่ายังมีลูกอีกคนอยู่ในท้องหลังคลอดลูกออกไปแล้ว นี่เป็นเรื่องปกติ ร่างกายจะใช้เวลาค่อย ๆ ปรับตัวให้พุงลดลง 2-3 สัปดาห์ ซึ่งแล้วแต่ร่างกายแต่ละคน การให้นมลูก หลีกเลี่ยงอาหารไขมันสูงหรือขนมหวาน ออกกำลังกายเบา ๆ ก็เป็นวิธีง่าย ๆ ที่จะช่วยลดพุงลงได้

12. เจ็บเวลาให้นมลูก
อาการคัดเต้านมเป็นเรื่องปกติหลังคลอด มันอาจทำให้คุณรู้สึกไม่สบายตัว คุณควรให้ลูกเข้าเต้าให้เร็วที่สุด ถึงแม้น้ำนมจะยังไม่ออกมาหรือออกมาน้อย ยิ่งให้ลูกดูดมากก็ยิ่งเป็นการกระตุ้นน้ำนม เด็กแรกเกิดควรได้ดื่มนมทุก ๆ 2-3 ชั่วโมงในวันแรก ๆ การนวดเบา ๆ ที่เต้านมของคุณระหว่างการให้นมจะช่วยให้รู้สึกสบายขึ้น

13. ผมร่วง
เพราะผู้หญิงหลังคลอดมีเอสโตรเจนน้อยลง ซึ่งเอสโตรเจนเป็นสารอาหารสำคัญสำหรับเส้นผม อาการผมร่วงจึงเกิดขึ้น รอให้ร่างกายปรับตัวซักพัก แล้วผมจะร่วงน้อยลง

14. ผิวแตกลายเห็นชัดขึ้น
เมื่อลูกออกมาแล้ว ผิวหนังที่เคยเต่งตึงเพราะท้องที่ใหญ่ก็เริ่มมีรอยเหี่ยวให้คุณเห็น รอยแตกลายจึงออกมาอย่างชัดเจน คุณแม่บางคนเห็นตัวเองแล้วน้ำตาจะไหล ก็อยากจะบอกว่ามันเป็นเรื่องปกติ ทาครีมกันไว้ ดื่มน้ำเยอะ ๆ รอยแตกจะเริ่มจางลงไป แต่ก็อย่าหวังอะไรมาก นี่เป็นสิ่งแลกมาด้วยความสุขที่ล้นเหลือของการมีลูก

15. ไม่อยากมีเซ็กส์เลย
ถึงแม้หมอจะให้รอประมาณ 6 สัปดาห์หลังคลอด ก่อนจะมีเซ็กส์ได้ แต่คุณแม่ส่วนใหญ่หมดพลังและไม่มีอารมณ์กับเรื่องนี้นานเป็นเดือน ๆ เพราะความจริงหลังมีลูกคือ ทั้งพ่อและแม่แทบจะไม่ได้นอนเลย อารมณ์ตรงนั้นจึงหายไป แต่เชื่อเถอะ ซักพักความต้องการทางเพศจะกลับมา เมื่อทุกอย่างเริ่มลงตัว