สัตว์เลี้ยงเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ได้หรือไม่?!

ข้อควรกังวลเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงในระหว่างตั้งครรภ์

การเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงไม่ใช่ปัญหา คุณยังสามารถเลี้ยงสัตว์ได้ แต่คุณควรมีวิธีเพื่อให้มั่นใจได้ว่า สัตว์เลี้ยงจะไม่เข้ามาเป็นอุปสรรค ระหว่างคุณกับการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัย

แมวและสัตว์ชนิดอื่นๆ อาจมีแบคทีเรียอยู่ในอุจจาระ ที่อาจเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ของคุณได้ (โดยเฉพาะในช่วงสามเดือนแรก) พึงระลึกไว้ว่า ความเสี่ยงในการติดเชื้อจะสูงขึ้น หากคุณเลี้ยงแมวแบบปล่อยตามอิสระ อย่างไรก็ดี หากคุณเลี้ยงแมวมาช่วงเวลาหนึ่งแล้ว คุณอาจจะมีภูมิคุ้มกันต่อโรคทอกโซพลาสโมซิส (toxoplasmosis) ซึ่งอาจจะเนื่องจากคุณอาจเคยเชื้อมาก่อนแล้ว โปรดปรึกษาแพทย์ เพื่อให้มั่นใจว่าคุณได้รับการตรวจก่อนตั้งครรภ์แล้ว

ดังนั้น ในระหว่างตั้วครรภ์ คุณแม่ควรอยู่ให้ห่างจากอุจจาระของสัตว์เลี้ยง ไม่ควรเก็บอุจจาระของสัตว์เลี้ยงเอง และควรให้คนในบ้านเก็บหรือกำจัดอุจจาระของสัตว์เลี้ยงออกจากบ้านอย่างสม่ำเสมอ ควรรักษาความสะอาดของบริเวณที่เลี้ยงสัตว์ให้ดี และหากเป็นไปได้ คุณอาจอยู่ให้ห่างจากสัตว์เลี้ยงของคุณในช่วงระหว่างตั้งครรภ์ ไม่ควรนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาในห้องนอน และอาจงดเว้นการเล่นกับสัตว์เลี้ยงลงไปบ้าง เพื่อความปลอดภัย

อย่างไรก็ดี การเลี้ยงสัตว์ไม่ใช่ข้อห้าม เพราะในทางหนึ่งก็พบว่า สัตว์เลี้ยงช่วยให้คลายเครียดและทำให้เจ้าของมีอารมณ์แจ่มใส เพียงแค่พึงระวังความสะอาด และไม่ควรปล่อยให้สัตว์เลี้ยงออกไปนอกบ้านก็จะเป็นการดี เพราะอาจมีโอกาสที่สัตว์เลี้ยงจะเอาเชื้อโรคเข้ามาฝากคุณได้

สัตว์เลี้ยงเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ได้หรือไม่?!

ภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดจากสัตว์เลี้ยงในระหว่างตั้งครรภ์

มีโรคบางชนิดที่คุณมีความเสี่ยงมากขึ้น หากปล่อยให้สัตว์เลี้ยงออกไปนอกบ้าน สัตว์เลี้ยงอาจได้รับแบคทีเรียที่อาจก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ในระหว่างการตั้งครรภ์ได้ ต่อไปนี้ เป็นโรคที่สามารถติดต่อจากสัตว์เลี้ยงที่พบได้บ่อยที่สุด ซึ่งอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนในการตั้งครรภ์ของคุณได้

- โรคแมวข่วน (Cat scratch disease) เกิดจากแบคทีเรีย Bartonella henselae ซึ่งทำให้แมวติดเชื้อ และสามารถติดต่อจากแมวสู่คนได้ จากการถูกแมวกัดหรือข่วน แมวที่ติดเชื้อมักไม่แสดงอาการป่วยแต่จะเป็นตัวแพร่โรคสู่คนได้ อาการที่พบในคนคือ มีรอยโรคบนผิวหนัง มีไข้ และในรายที่รุนแรงอาจเกิดการติดเชื้อทั่วร่างกาย โรคแมวข่วนสามารถส่งผลต่อสมอง ดวงตา หัวใจ และอวัยวะภายในอื่นๆ ภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้ต้องมีการรักษาที่จริงจัง และมีความเป็นไปได้มาก ที่จะส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอของลูกในครรภ์ของคุณ

- โรคพิษสุนัขบ้า เป็นโรคติดเชื้อไวรัสชนิดหนึ่ง ซึ่งมักติดต่อจากการกัดของสัตว์ที่เป็นโรคกลัวน้ำ ไวรัสโรคพิษสุนัขบ้าก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบประสาทส่วนกลางและสมอง อาการโรคพิษสุนัขบ้าคล้ายคลึงกับอาการของโรคอื่นๆ โดยมีอาการ ได้แก่ มีไข้ ปวดศีรษะ และอาการเจ็บป่วยหรือไม่สบายอื่นๆ โรคพิษสุนัขบ้าสามารถเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ เมื่อติดเชื้อได้เพียงสองสามวัน

โดยทั่วไปแล้ว สัตว์ที่เลี้ยงอยู่ภายในบ้านส่วนใหญ่ มีความปลอดภัย และไม่ก่อให้เกิดปัญหาใดๆ อย่างไรก็ดี เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงของคุณ และเข้ารับการตรวจร่างกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อความปลอดภัยสำหรับคุณและลูกน้อยของคุณ