กิจกรรมที่วิจัยแล้วว่าจะส่งผลเสียกับสมองของเด็ก

กิจกรรมที่วิจัยแล้วว่าจะส่งผลเสียกับสมองของเด็ก

สมองของเด็กๆ ใน 2 ปีแรกของชีวิตจะเติบโตอย่างน่าเหลือเชื่อ และใหญ่ขึ้นเป็น 3 เท่าของขนาดสมองตอนแรกเกิด ซึ่งพัฒนาการในช่วงนี้นั้นเป็นช่วงที่สำคัญที่สุดของชีวิตมนุษย์แล้วละค่ะ หากสมองของเด็กๆ ได้รับการกระตุ้นน้อยเกินไปหรือมากเกินไปก็จะส่งผลไปตลอดชีวิตของเขาเลยนะคะ
กุมารแพทย์และนักวิจัยเผยให้เห็นการทำงานระหว่าง สมองของเด็กปกติและเด็กกำพร้าจากสถานโรมาเนีย ความแตกต่างนั้นส่งผลชัดเจนค่ะ เด็กที่ได้รับการกระตุ้นน้อยจะมีพื้นที่ในสมองที่ไม่ได้ใช้งานเป็นจำนวนมาก และสำหรับการกระตุ้นที่เยอะมากเกินไปละ คำตอบเป็นอย่างนี้ค่ะ


ดูทีวี สมองฝ่อ จริงเหรอ ?

ไม่ถึงกับฝ่อ แต่การให้เด็กๆ ดูทีวี ยูทูป หรือภาพเคลื่อนไหวใดๆ ก็ตาม ที่เปลี่ยนเร็วมากเกินไป ก่อนช่วงอายุ 3 ขวบนั้น จะทำให้มีปัญหาสมาธิเมื่อเทียบกับเด็กๆ ที่ไม่ได้ดูภาพเหล่านี้เลย การดูทีวีเพียง 2 ชั่วโมงต่อวัน ก็สามารถทำให้เด็กมีปัญหาสมาธิได้มากขึ้นถึง 20% แล้วละค่ะ
นอกจากเรื่องเวลาที่เด็กๆ ใช้ดูทีวีแล้ว เรื่องของเนื้อหาในนั้นก็เป็นส่วนสำคัญค่ะ รายการเด็กอย่าง Baby Einstein หรือรายการที่ทำมาสำหรับเด็กๆ โดยเฉพาะ ก็ไม่ได้สร้างมาเพื่อพัฒนาสมองของเด็กๆ อย่างแท้จริงค่ะ



กิจกรรมที่วิจัยแล้วว่าจะส่งผลเสียกับสมองของเด็ก

ผลกระทบไม่ใช่เด็กๆ เท่านั้น
ทีมนักวิจัยที่ทำการสังเกตุการณ์พบว่า การที่เด็กๆ รับสารจากภาพและเสียง ทำให้เกิดการกระตุ้นของสมองที่มากเกินไป เวลาการนอนหลับที่ดึกไป และระบบประสาทที่ตื่นตัว จะทำให้อาการโดยรวมนั้นเกิดภาวะของ electronic screen syndrome ซึ่งจะทำให้เด็กๆ อารมณ์ไม่ดี และมีปัญหาด้านสมาธิ ซึ่งเป็นผลมาจากการสร้างความเสียหายของสมองนั่นเองค่ะ
ซึ่งปรากฎการณ์ของสื่อดิจิตอลที่ทำให้เกิดการติดสื่อดิจิตอลในผู้ใหญ่ จะไม่ร้ายแรงเท่ากับที่เกิดขึ้นในเด็กๆ เนื่องจากสมองของผู้ใหญ่นั้นพัฒนาเต็มที่แล้ว จึงรู้ว่าเมื่อไหร่ควรจะหยุด กลับกันกับสมองของเด็กๆ เนื่องจากสมองของเด็กๆ ยังพัฒนาไม่เต็มที่ จึงไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ควรพักเมื่อไหร่ควรหยุด

กิจกรรมที่วิจัยแล้วว่าจะส่งผลเสียกับสมองของเด็ก

อย่าเพิ่งโทษพ่อแม่
อย่าเอาผลการวิจัยที่เกิดขึ้นเป็นแนวทางเพื่อที่จะตัดสินคุณพ่อคุณแม่ที่เลี้ยงลูกติดหน้าจอค่ะ งานวิจัยนั้นเกิดขึ้นเพื่อหาแนวทางแก้ไข หาสาเหตุที่แท้จริง เพื่อหาคำตอบที่ดีที่สุด หากไม่รู้แนวทางที่ไม่ดี เราจะไม่สามารถหาแนวทางที่ดีที่สุดได้นั่นเองค่ะ

มือถือ แทปเล็ต คอมพิวเตอร์

อุปกรณ์เหล่านี้ไม่เหมือนทีวีค่ะ เนื่องจากเราต้องการมีตอบสนองและโต้ตอบไปมา (interactive) แต่ก็ยังต้องใช้ในเวลาที่เหมาะสมอยู่ดี นั่นหมายถึงต้องหลัง 2 ขวบขึ้นไป และใช้เพียงแค่ 30-60 นาทีต่อวันเท่านั้นค่ะ

อย่างไรก็ตามอุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ต่างๆ นั้นเป็นเพียงการจำลองการเล่นของเล่นเด็ก จำพวกการต่อบล็อก เปิดไพ่จับคู่ การ์ดคำศัพท์ต่างๆ ทำให้ของเล่นเหล่านี้สะดวกมากขึ้น และต้องอยู่ในการดูแลของคุณพ่อคุณแม่ด้วยเช่นกันค่ะ


กิจกรรมที่วิจัยแล้วว่าจะส่งผลเสียกับสมองของเด็ก

ให้ลูกเจอประสบการณ์จริงดีที่สุด
พาลูกๆ ไปข้างนอก ไปเจอสิ่งต่างๆ สลับกับการอยู่ในบ้านบ้าง เพื่อลดความเสี่ยงในการเป็นโรคอ้วนด้วยนะคะ ทั้งนี้การเล่นนอกบ้านยังเป็นการช่วยเสริมภูมิคุ้มกันของร่างกายจากวิตามินดีที่ได้จากแสดงแดด และการออกกำลังกายทั้งกล้ามเนื้อมัดเล็กและมัดใหญ่ ช่วยให้เด็กๆ เข้าสังคมกับคนอื่นได้จากการเล่นกับเด็กๆ หรือคนอื่นๆ

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์