
เวลาที่ลูกดื้อ ทำตัวไม่น่ารัก เกเร หรือพูดอะไรแล้วไม่เชื่อฟัง การพูดบ่อย ๆ ก็ทำให้คนเป็นแม่อย่างเราหงุดหงิดได้ง่าย ๆ เหมือนกัน และสิ่งที่เรามักเผลอทำคืออะไร ถ้าไม่ใช่ การตะโกนใส่หน้าลูก และสิ่งนี้นี่แหละ ที่จะทำให้เรากลายเป็นคุณแม่ใจร้ายในสายตาพวกเขาได้ ถ้าหากคุณไม่อยากเป็นคุณแม่ใจร้าย ลองดูเคล็ดลับเล็ก ๆ น้อยเหล่านี้ดูค่ะ1. ระลึกถึงเสมอ ก่อนอื่นคุณต้องนึกก่อนว่า ถ้าคุณโกรธ ตะคอกหรือตะโกนใส่หน้าลูกไป ลูกจะตกใจ และรู้สึกเสียใจมากขนาดไหน เพราะในสายตาลูก คุณคือคนที่เขารักและสำคัญที่สุด คุณคือนางฟ้าและโลกทั้งใบของเขา และถ้าจู่มาวันนึง นางฟ้ากลายร่างมาเป็นแม่ใจร้ายละ ลูกอาจจะช็อก และไม่กล้าเข้าใกล้คุณอีกก็เป็นได้
2. รู้จักระงับอารมณ์ คุณลองนึกถึงนักล่าและผู้ถูกล่าสิคะ ว่ามันน่ากลัวขนาดไหน ผู้ล่าอาจจะดูมีพลังมากมาย แตกต่างกับผู้ถูกล่าที่เต็มไปด้วยความกลัวและการรนราน ถ้าหากคุณไม่อยากให้ลูกคุณรู้สึกเช่นเดียวกับผู้ถูกล่าละก็ หยุดและหาทางระงับอารมณ์ของตัวเองก่อน ไม่ว่าจะเป็นการเดินออกไปจากตรงนั้นเพื่ออยู่เงียบ ๆ คนเดียว หรือหาเพลงฟังเพื่อให้ความโกรธนั้นเบาลง เมื่อทุกอย่างเบาลงแล้ว ค่อยกลับมาพูดคุยกับลูกใหม่
3. รู้ว่าอะไรคือสิ่งกระตุ้นความโกรธ ก่อนอื่นคุณต้องรู้ก่อนว่า เรื่องไหนที่ลูกทำแล้ว ทำให้คุณรู้สึกโกรธได้ง่ายและบ่อยมากที่สุด แล้วเขียนลงบนกระดาษ เมื่อคุณทราบแล้วก็พยายามหาทางหลีกเลี่ยงและหาวิธีระงับอารมณ์ของตัวเองให้ได้มากที่สุด
4. ถามตัวเองว่าทำไม ใช่ค่ะ ถ้าคุณรู้แล้วว่า อะไรคือสิ่งกระตุ้นความโกรธของคุณ ๆ ก็ต้องหาคำตอบให้ได้ว่า เพราะอะไร ทำไมพฤติกรรมนั้นของลูก ถึงทำให้คุณโกรธและหงุดหงิดได้มากถึงเพียงนี้
5. รู้จักกับความโกรธ คุณรู้จักกับความโกรธของตัวเองหรือเปล่า คุณรู้ไหมว่า มันมีพลังรุนแรงมากขนาดไหน ถ้าหากรู้แล้ว คุณยังอยากทำพฤติกรรมเหล่านั้นใส่ลูกคุณอีกหรือ
6. อยู่กับความจริง อย่าพยายามกดดันตัวเองและลูก ด้วยการทำทุกอย่างเพื่อให้มันออกมาดูดีและสมบูรณ์ที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในสายตาของคนอื่น อย่ามัวแต่แคร์สายตาของคนอื่น จนลืมแคร์ความรู้สึกของลูกคุณเอง ที่สำคัญบนโลกนี้ไม่มีใครหรอกที่เพอร์เฟคไปเสียทุกอย่าง เพื่อชีวิตที่มีความสุข และการมีสุขภาพจิตที่ดี อะไรที่ลูกทำแล้วไม่ร้ายแรง และไม่เดือดร้อนคนอื่น ก็หลับหูหลับตาเสียบ้างเถอะค่ะ
7. รู้จักวิธีเยียวยา เมื่อคุณรู้จักสิ่งกระตุ้น รู้จักกับอารมณ์โกรธของตัวเองแล้ว อย่าลืมที่จะรู้จักหาวิธีเยียวยาอารมณ์ของคุณด้วย ไม่ว่าจะด้วยการหากิจกรรมทำ หรือการพูดคุยกับคนครอบครัว หรือเพื่อนฝูงเป็นต้น
8. พยายามหลีกเลี่ยง ถ้าคุณรู้แล้วว่าตอนนั้น อารมณ์คุณกำลังขึ้น ใกล้ถึงจุดที่คุณอาจจะต้องเสียงดังและตะโกนใส่ลูกแล้ว หยุด แล้วนับหนึ่งถึงสิบ ถอยห่างออกมาและกลับมาอยู่กับความเป็นจริงก่อน
9. หยุดความคิดของตัวเอง จริงอยู่ว่าคนเป็นแม่ จะรู้สึกกลัวและตื่นตระหนกไปเสียทุกอย่าง ซึ่งความกลัวเหล่านั้น ก็มักจะมากดดันความรู้สึกนึกคิดของเราเสมอ และไม่ว่าลูกจะทำอะไร เราก็จะคอยห้าม เพราะไม่อยากให้สิ่งที่เราคิดเกิดขึ้น ยิ่งถ้าลูกไม่ทำตาม อารมณ์โมโหก็จะเกิดขึ้นในที่สุด อย่าสอนให้ลูกกลายเป็นเด็กขี้กลัวและขี้กังวล แต่จงสอนให้ลูกให้รู้จักกับความไม่ประมาทจะดีกว่า
10. ปลดปล่อยอารมณ์บ้าง อย่าพยายามเก็บความรู้สึกทั้งหมดไว้เพียงคนเดียว ถ้าคุณโกรธแล้ว และสามารถระงับตัวเองไม่ให้ตะโกนหรือระเบิดใส่ลูกได้ ... นั่นแสดงว่า คุณเก่งมากค่ะ คุณสามารถชนะบททดสอบนี้ผ่าน แต่อย่าลืมที่จะหาเวลาให้ตัวเองได้ปลดปล่อยอารมณ์ และมีเวลาส่วนตัวบ้างนะคะ
เพราะอารมณ์โกรธคือ บ่อเกิดของทุกสิ่ง
การตะโกนใส่หน้าลูกจึงอาจเป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้ ดังนั้น ถ้าหากเรารู้จักเรียนรู้ความโกรธของตัวเองได้ การระบายอารมณ์ทั้งหมดใส่ลูกก็จะไม่เกิดขึ้น ... เพราะคุณ คงไม่อยากกลายเป็นคุณแม่ใจร้ายในสายตาลูกของเรากันหรอกนะคะ
ที่มา: Empoweringparents