สาเหตุอาการ ลูกตาแฉะ มีขี้ตาเยอะ
ลูกตาแฉะ ตื่นมาขี้ตาเขรอะ จะหาวิธีแก้ยังไงดี?
เกิดขึ้นได้กับทารกแรกเกิดบางรายที่ท่อน้ำตาธรรมชาติอาจยังไม่เปิดหรือเปิดช้า เมื่อร่างกายมีการสร้างน้ำตาออกมาแต่ไม่มีที่ระบายออกก็อาจทำให้เกิดน้ำตาไหลคลอเบ้าทำให้ตาแฉะได้ ซึ่งท่อน้ำตาอาจจะเปิดไม่พร้อมกันทำให้ทารกบางคนก็ตาแฉะเพียงข้างเดียวหรือสองข้าง
เกิดขึ้นได้จากการติดเชื้อแบคทีเรียเนื่องจากการการดูแลรักษาความสะอาดไม่ดี ส่งผลให้เกิดเยื่อบุตาอักเสบ ทำให้ลูกมีขี้ตามาก ตาแฉะ และถ้ามีอาการมากก็อาจทำให้เป็นหนองที่หัวตาได้
สาเหตุอื่นๆ เช่น เยื่อบุตาอักเสบ กระจกตาอักเสบ แผลถลอกที่กระจกตา หรือมีสิ่งแปลกปลอมในตา
ลูกตาแฉะ จะหาวิธีแก้ยังไงดี?
1.ทำความสะอาดดวงตาของลูกข้างที่มีขี้ตาหลังอาบน้ำ ด้วยการนำสำลีชุบน้ำอุ่นที่ต้มสุก เช็ดเบา ๆ โดยเช็ดจากหัวตาไปหางตา 1 ครั้งแล้วทิ้งไป จากนั้นนำสำลีแผ่นใหม่ ชุบน้ำอุ่น เช็ดเบา ๆ บริเวณรอบดวงตาอีกครั้ง แล้วทิ้ง
2.ใช้ผ้าสะอาดซับรอบบริเวณดวงตาของลูกให้แห้ง
3.ควรเช็ดตาลูกวันละ 2-3 ครั้งหรือเวลาที่ลูกตาแฉะ มีขี้ตาเยอะ
4.ใช้วิธีนวด โดยใช้นิ้วชี้กดที่หัวตาตรงบริเวณระหว่างหัวตากับสันจมูก แล้ววนนิ้วลงเบา ๆ ลากมาตามข้างสันจมูกเพื่อสร้างแรงดันไปดันเจ้าพังผืดที่ปิดรูทางออกของท่อน้ำตาให้ทะลุออกไป ทำอย่างน้อย 20 - 30 ครั้ง วันละ 4 รอบ เช้า กลางวัน เย็น และก่อนนอน สามารถนวดในตอนที่ลูกหลับหรือทานนมเพื่อจะทำได้ง่าย
5.ใช้ยาฆ่าเชื้อมาหยอดตาเพื่อป้องกันการอักเสบติดเชื้อตามที่คุณหมอพิจารณา
อาการที่ทารกตาแฉะ หรือการเกิดท่อน้ำตาอุดตันในเด็กเป็นภาวะที่มักไม่มีอาการรุนแรง พบได้ประมาณ 30% ในเด็กทารก และประมาณร้อยละ 90 ท่อน้ำตาจะสามารถเปิดได้เองภายในอายุ 6 เดือน หรือดูแลอย่างถูกวิธีและสม่ำเสมอก็จะสามารถหายได้เอง แต่หากไม่ดีขึ้น คุณหมอตาจะพิจารณาให้การรักษาโดยการแยงท่อน้ำตาเมื่อลูกอายุประมาณ 1 ขวบ ดังนั้นหากพบว่าลูกน้อยตาแฉะ มีขี้ตาเกรอะกรัง อาการยังไม่หาย คุณแม่เป็นกังวล ควรพาลูกไปพบคุณหมอจักษุแพทย์โดยเฉพาะ เพื่อตรวจหาสาเหตุยืนยันการวินิจฉัย จะปลอดภัยต่อดวงตาทารกมากที่สุดนะคะ