ภัยเงียบในห้องนอนลูกน้อยที่ไม่ควรมองข้าม

อาการป่วยของลูกน้อยเป็นเรื่องที่น่ากังวล และเป็นปัญหาที่คุณพ่อคุณแม่ต้องคอยสังเกตให้ดี นอกจากอาการที่ผิดปกติของเจ้าตัวเล็กแล้ว หากคุณแม่พบว่าลูกน้อยมีอาการป่วยขึ้นมา ทั้งทีลูกก็กินอาหารได้ปกติดี ร่าเริง แจ่มใส ทุกวัน แต่ไม่สบายขึ้นได้อย่างไร หนึ่งในเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามอาจเกิดขึ้นเป็นภัยเงียบ ๆ ได้จากห้องนอน ลองสำรวจห้องนอนลูกน้อยดูหน่อยว่ามีลักษณะแบบนี้หรือเปล่า

เช็กดูเลยว่าได้ปิดหน้าต่างห้องนอนไว้ตลอดเวลาหรือเปล่า ถ้าใช่ล่ะก็ รีบเปิดเลยค่ะ เพราะจะช่วยทำให้ห้องนอนลูกมีอากาศถ่ายเทมากขึ้น ไม่เป็นแหล่งสะสมของเชื้อราต้นเหตุของโรคต่าง ๆ

แนะนำว่าถ้าเป็นไปได้ไม่ควรมีพรมไว้ในห้องนอน เพราะพรมเป็นแหล่งสะสมของเชื้อราที่ติดมากับเท้าหรือรองเท้า หรือควรหมั่นทำความสะอาดพรมบ่อยๆ ด้วยการดูดฝุ่นหรือซักทุกสัปดาห์
หน้าที่ผ่านมา หน้าที่ผ่านมา

ควรนำไปผึ่งแดดทุกสองสัปดาห์หรือเปลี่ยนปลอกหมอนทุกสัปดาห์ เพราะหมอนอยู่ใกล้ศีรษะมากที่สุด จะทำให้แบคทีเรียหรือเชื้อรามารบกวนลูกตอนนอนได้ง่าย และทำให้เป็นโรคภูมิแพ้ ปวดศีรษะ หรือเจ็บคอได้

ถึงบ้านคุณจะมีสัตว์เลี้ยง รักและเอ็นดูขนาดไหนก็ตาม แต่สำหรับห้องนอนของลูกไม่ควรปล่อยให้สัตว์เลี้ยงแสนรักเข้าห้องนอน หรือให้พวกมันมานอนบนเตียงด้วยเด็ดขาด เพราะขนของมันเต็มไปด้วยสารก่อทั้งภูมิแพ้ เชื้อรา และฝุ่นละอองต่างๆ ที่ติดมากับขน ซึ่งจะก่อให้เกิดโรคอื่น ๆ ตามมาได้เช่นกัน

ปกติแล้วที่นอนจะมีอายุอยู่ที่ 5 - 10 ปี ถ้าเกินจากนั้นควรเปลี่ยนได้แล้ว และถ้าเวลานอนรู้สึกคันหรือมีอะไรมาไต่ที่ตัวให้สงสัยไว้ก่อนเลยว่ามันอาจจะเป็นเจ้าเชื้อราหรือแบคทีเรียนั่นเอง ห้ามปล่อยผ่านไปโดยเด็ดขาด รีบนำไปซักแล้วตากแดดโดยด่วน เพราะโอกาสที่ลูกน้อยจะเกิดโรคภูมิแพ้มีขึ้นได้เช่นกัน