คุณแม่อาจไม่ทราบมาก่อนว่า วิตามินดี ( Vitamin D ) นอกจากจะช่วยดูดซึมแคลเซียมเข้าสู่ร่างกายแล้ว ยังมีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของลูกรักในด้านอื่นๆ โดยเฉพาะระบบประสาทและสมอง วิตามินดี จัดเป็นหนึ่งในวิตามินที่สำคัญและจำเป็นต่อเด็ก โดยเฉพาะช่วงวัย 1 – 6 ปี ที่มีพัฒนาการสมองถึง 90% คุณแม่จึงควรมั่นใจได้ว่าลูกได้รับวิตามินดีจากอาหารเสริมของเด็กในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อเสริมสร้างพัฒนาการสมองของลูกน้อยได้อย่างเต็มศักยภาพ
มีงานวิจัยที่ได้ทำการทดลองในผู้สูงอายุ ก่อนทำบททดสอบ ผู้วิจัยได้ทำการวัดระดับวิตามินดีในกลุ่มตัวอย่างทุกราย และให้กลุ่มตัวอย่างทำแบบทดสอบ ผลจากการวิจัยพบว่า 60 % ทำคะแนนได้น้อย และในผู้ที่ทำคะแนนได้น้อยมีระดับวิตามินดีในร่างกายต่ำร่วมด้วย ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานการทดลองที่ว่า โรคสมองเสื่อมเกี่ยวเนื่องกับระดับวิตามินดีในร่างกายต่ำ
วิตามินดี มีหน้าที่ช่วยปรับระดับเเคลเซี่ยมในสมอง ให้การส่งต่อข้อมูลต่างๆในสมองเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อขาดวิตามินดีการทำงานของแคลเซียมในสมองจึงอาจมีความผิดปกติไป จึงส่งผลต่อระบบความจำ และอาจมีภาวะสมองเสื่อมตามมาได้ วิตามินดีจึงมีความสำคัญต่อระบบประสาทและสมองเป็นอย่างยิ่ง เด็กจึงควรได้รับวิตามินดีในปริมาณที่เพียงพอในแต่ละวัน
แต่ด้วยรูปแบบการใช้ชีวิตของเด็กในปัจจุบันเปลี่ยนไป โดยเฉพาะเด็กเมือง ที่รายล้อมไปด้วยการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น แท็บเล็ต สมาร์ทโฟน ฯลฯ ส่งผลให้การเรียนรู้ของเด็กเปลี่ยนไป นั่นคือนั่งๆ นอนๆ และเคลื่อนไหวร่างกายน้อยลง และไม่ค่อยได้ออกไปวิ่งเล่นนอกบ้าน ทำให้ลูกพลาดโอกาสที่จะได้รับวิตามินดีจากแสงแดดอ่อนๆ หรือพฤติกรรมการเลือกกินอาหารเสริมของเด็ก ที่ทำให้ได้รับโภชนาการที่ไม่เพียงพอ อาจทำให้ขาดวิตามินดี ซึ่งอาจส่งผลต่อพัฒนาการด้านสมองได้
วิธีป้องกันการขาดวิตามินดี
1. แสงเเดดเพิ่มวิตามินดีได้ วิตามินดีมีมากในแสงแดด คุณแม่ควรพาลูกออกมาเล่นกลางแจ้งเป็นประจำในช่วงเช้าหรือช่วงบ่ายแก่ๆ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ครั้งละ 15-30 นาที
2. วิตามินดีในอาหาร สำหรับลูกวัย 6 เดือนขึ้นไป คุณแม่ควรดูแลให้ได้รับอาหารเสริมของเด็กตามช่วงวัย วิตามินดีมีมากในอาหาร เช่น ผักสีเขียว ผักสีเหลือง ฟักทอง แครอท ปลาเเซลมอน ปลาซาร์ดีน ปลาทู ไข่แดง เป็นต้น
3. เสริมด้วยนมที่มีวิตามินดีสูง นอกจากการรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่แล้ว การเลือกนมสำหรับเด็กช่วงวัย 1 – 6 ปี จำเป็นต้องมีแร่ธาตุในนมและสารอาหารครบถ้วน โดยคุณแม่สามารถเสริมด้วยนมกล่องสำหรับเด็ก ได้แก่ โฟร์โมสต์ โอเมก้า 3 6 9 ที่มีแร่ธาตุในนม วิตามินดีสูง ธาตุเหล็กสูง และวิตามินบี 12สูง และ โฟร์โมสต์ โอเมก้า โกลด์ ที่นอกจากมีวิตามินดีสูงแล้ว ยังเป็นอาหารเสริมของเด็กที่มีแร่ธาตุในนมและสารอาหารที่สำคัญ เช่น DHA 11.25 มก. และ กรดไขมันโอเมก้า 3 6 9 แร่ธาตุในนมและสารอาหารสำคัญสำหรับเด็กที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยเสริมสร้างการสร้างเครือข่ายใยประสาทในสมอง จึงเหมาะเป็นอาหารเสริมของเด็ก ที่จะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการสมองอย่างเต็มศักยภาพ เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ที่สำคัญที่สุด พัฒนาร่างกายของลูกน้อยให้สมบูรณ์แข็งแรงในทุกๆวัน
ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.foremostomega.com