5 ของเล่นพัฒนาสมองลูกน้อย ที่แม่ๆ ต้องไม่พลาด

หน้าแรกTeeNee แม่จ๋าและลูกน้อย เคล็ดลับวิธีเลี้ยงลูก 5 ของเล่นพัฒนาสมองลูกน้อย ที่แม่ๆ ต้องไม่พลาด

บ่อยครั้ง ที่เราจะสังเกตุเห็น คุณพ่อคุณแม่ ผู้ปกครองสมัยนี้ มักทิ้งลูกน้อยไว้กับไอแพด แก็ดเจ็ต เทคโนโลยีล้ำสมัย ให้ลูกนั่งจ้องหน้าจอ ดูการ์ตูน หรือเล่นเกม ซึ่งถามว่าเป็นการพัฒนาสมองของลูกน้อยไหม ก็ถือว่าได้ส่วนหนึ่ง แต่มันจะไม่ดีต่อสุขภาพดวงตาที่กำลังเป้นประกายใสๆ ของลูกน้อยน่ะสิคะ

แม้ว่าเทคโนโลยีจะล้ำสมัย เข้าสู่ยุค 3G 4G แต่การพัฒนาทักษะทางสมอง และการใช้ร่างกายของลูกน้อยก็จำเป็นที่ต้องได้รับการพัฒนาอย่างเหมาะสม ซึ่งบางทีอาจไม่ต้องพึ่งเทคโนโลยี ถ้าเหล่าแม่ๆ เข้าใจความเป็นไปของพัฒนาการสมองในแต่ละวัยของลูกน้อยค่ะ

และวันนี้ Teenee.com จะพามาดูของเล่นพัฒนาสมองลูกน้อย รูปแบบใหม่ๆ ที่จะช่วยเสริมพัฒนาการให้กับลูกน้อย และสร้างความสุขให้เด็กๆ ได้

5 ของเล่นพัฒนาสมองลูกน้อย ที่แม่ๆ ต้องไม่พลาด

1. กระปุกออมสิน ATM

แทนที่จะให้ลูกน้อยได้เล่นอย่างเพลิดเพลินอย่างเดียว แม่ๆ ก็สามารถฝึกให้ลูกน้อยรู้จักอดออมไปด้วยก็ได้ ซึ่งสมัยนี้ มีกระปุกออมสินหลากหลายรูปแบบออกมามากมาย อย่างกระปุกออมสิน ATM ก็ถือเป็นของเล่นที่จำลองจากของจริง ให้ลูกน้อยได้มีจินตนาการถึงการใช้ชีวิตในอนาคตที่กำลังจะโต ให้ลูกน้อยได้รู้จักอดออม เก็บหอมรอมริบให้กับตัวเอง ก็ถือว่าเป็นประโยชน์ 2 ต่อ

แต่ถ้าแม่ๆ คนไหนคิดว่า มันจะดูเหมาะกับเด็กโตมากกว่า ดูเล่นยากเกินไป กระปุกออมสินแมวเหมียว แบบมีเสียงดนตรี นี่ก็น่ารักเหมาะกับเด็กเล็ก วิธีการเล่นก็แค่นำเหรียญวางบนจานอาหารที่อยู่บนกล่อง เจ้าลูกแมวก็จะค่อยๆโผล่ออกมาขโมยเอาเหรียญ พร้อมร้องเหมียวๆ แล้วหายกลับเข้าไปในกล่องอย่างรวดเร็ว ทิ้งไว้เพียงเสียงร้องเหมียวๆแบบน่ารัก ที่จะทำให้เด็กๆยิ้มได้ และโน้มน้าวให้พวกเด็กๆวางเหรียญลงไปอีก เยอะๆ สามารถมอบให้เป็นของขวัญได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เพิ่มความสนุกสนานให้กับการออม

2. Mosaic sticker

เดี๋ยวนี้การเสริมจินตนาการของเด็กไม่ได้จำกัดอยู่แค่การระบายสีแล้ว ของเล่นพัฒนาไปมาก อย่าง Mosaic Sticker นี่ก็ช่วยเสริมสร้างจินตนาการ และความสร้างสรรค์ให้กับลูกตัวน้อยๆ ได้

แต่ของเล่นชิ้นนี้จะมีขนาดเล็กหน่อย แม่ๆ อาจจะต้องนั่งเล่นด้วยอย่างใกล้ชิด ป้องกันเวลาลูกน้อยเอาเข้าปาก ไม่งั้นจะอันตรายได้

3. หนังสือนิทาน อิเล็กทรอนิกส์

โลกจินตนาการ อย่างเช่น นิทาน ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในหนังสือ อีกต่อไป มีการนำนิทานมาทำเป็นของเล่นพลาสติก ใส่ถ่าน เป็นหนังสือนิทานอิเล็กทรอนิกส์ ที่บางอันอาจมีหนังสือมากถึง 4 เล่ม ให้ลูกน้อยได้ฟัง ได้คิด ได้เพลินเพลินกับเสียงดนตรี

อย่างอันที่เห็นในภาพนี้ ก็จะมีนิทานให้เลือก แล้วเสียบเข้ากับตัวเครื่อง มี Pointer sensor เมื่อชี้ไปตามรูปต่างๆ แล้วเครื่องจะอ่านคำศัพท์นั้นหรือถามคำถามที่เกี่ยวข้องกับคำศัพท์นั้นๆ มีปุ่มสำหรับกดตอบคำถามในแต่ละเล่มมีนิทาน มีดนตรีหลากหลายพร้อมเพลงสำหรับร้องตาม สอนให้รู้จักกับ สัตว์ สี รูปทรง ผักผลไม้ เครื่องดนตรี สิ่งของ คำศัพท์ เหมาะสำหรับให้ลูกน้อยฝึกอ่านไปพร้อมๆ กับพ่อแม่

4. ทรายแม่เหล็ก

อยากให้ลูกได้เล่นก่อปราสาททราย ก็ไม่ต้องไปไกลถึงทะเลแล้ว เพราะเดี๋ยวนี้มีทรายแม่เหล็กใส่กล่อง ส่งตรงถึงบ้าน พร้อมแม่พิมพ์ปราสาททราย ให้ลูกน้อยได้ก่อปราสาททรายเล่นสนุกสนานอยู่ที่บ้าน

อีกทั้งทรายพวกนี้ยังมีหลากหลายสี ให้ลูกๆได้พัฒนาความคิดสร้างสรรค์ ก่อร่างสร้างปราสาททรายตามจินตนาการของตนเอง และก็ไม่อันตรายต่อลูกน้อยด้วยค่ะ

5. ชุดเกมส์เรียงภาพสีและรูปทรง

ของเล่นพัฒนาสมองด้านเชาว์ปัญญา IQ นี้มีให้เลือกหลากหลาย ถ้าเบสิคหน่อยก็ตัวต่อเลโก้ ถ้ายากขึ้นไปอีกกประกอบรถ ประกอบหุ่นยนต์ จิ๊กซอว์ เป็นต้น ถ้าเป็นเด็กเล็ก วัยไม่ถึง 3 ขวบ ที่เพิ่มมีพัฒนาการด้านการมองเห็นสี และจดจำรูปทรงได้นั้น ชุดเกมส์เรียงภาพสี น่าจะเหมาะสุด

ชุดเกมส์เรียงภาพสีและรูปทรงนี้เป็นของเล่นเสริมพัฒนาการ ฝึกสมอง ที่เป็นแผ่นอะครีลิคสีต่างๆ รูปทรงต่างๆ ให้ลูกน้อยฝึกเรียงตามโจทย์ เรียนรู้การแก้ปัญหา การเรียงลำดับก่อนหลัง ความเข้าใจเรื่องรูปทรง และความสามารถของรูปทรงที่เปลี่ยนแปลง ก็สามารถสร้างภาพใหม่ๆได้ เป็นการพัฒนาอีคิวในส่วนจินตนาการ ช่วยให้เด็กรู้จักพลิกแพลงรูปทรงเพื่อแก้ปัญหา

อีกทั้งของเล่นชิ้นนี้ ขนาดไม่เล็กจนเกินไป ไม่ต้องกลัวอันตรายว่าเข้าปาก ลงคอลูกน้อยด้วย

เข้าใจพัฒนาการแต่ละวัยของลูกน้อย

1. เด็กวัยแรกเกิด-4 เดือน : เด็กในวัยนี้ พัฒนาการยังมีไม่มาก ของเล่นชิ้นโปรดของลูก คือ พ่อแม่ค่ะ เป็นช่วงวัยแห่งการเปิดรับความสุขความอบอุ่น สิ่งสำคัญคือการให้เวลากับลูกน้อย

2. เด็กวัย 4-6 เดือน : เด็กในวัยนี้ จะมีพัฒนาการด้านการมองเห็นที่ดีขึ้น และมองเห็นได้ชัดเจนเท่าผู้ใหญ่ การจดจำสี จดจำการเคลื่อนไหว คือสิ่งที่เหมาะสมกับเด็กวัยนี้ จะทำให้สมองและร่างกายได้พัฒนาอย่างเต็มที่แน่นอน

3. เด็กวัย 6-18 เดือน : เด็กในวัยนี้ จะมีพัฒนาการด้านการฟังที่ดีขึ้น สามารถเชื่อมโยงสิ่งที่ได้ยินกับการกระทำและสามารถรู้ความหมายที่ต้องการจะสื่อได้

4. เด็กวัย 18-24 เดือน : พัฒนาการเรื่องความจำ จะโดดเด่นมากสำหรบเด็กช่วงวัย 1 ปีครึ่ง ถึง 2 ปี เริ่มซน เริ่มหัดเดิน ชอบที่จะเรียนรู้กับสิ่งรอบข้าง ตื่นเต้นกับประสบการณ์ใหม่ๆ ชอบหยิบจับสิ่งของ ดังนั้นการให้ลูกเล่นเกมที่จับต้องได้จะช่วยพัฒนาสมองของลูกน้อยได้มาก

5. เด็กวัย 2-3 ปี : เด็กบางคนในวัยนี้ เดินได้ พูดคล่อง พัฒนาการด้านความสามารถ ด้านความจำ และการช้ทักษะของร่างกาย จะโดดเด่นมาก

6. เด็กวัย 3-5 ขวบ : เด็กวัยนี้กำลังอยากรู้อยากเห็น และมีความต้องการที่จะเรียนรู้ทุกอย่างด้วยตัวเอง อยากลองทำหรือเล่นเอง เริ่มคิด จินตนาการต่อยอดจากสิ่งที่มองเห็นรอบข้าง เริ่มมีความรู้สึกเกี่ยวกับแรบันดาลใจ

ของเล่นเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเด็กทุกวัยค่ะ ถ้าคุณพ่อคุณแม่เข้าใจว่าลูกวัยไหนควรเล่นอะไรก็ควรจะส่งเสริมเพื่อพัฒนาการสมองที่ดี ยิ่งลูกได้เล่นเองคิดเอง จะทำให้ลูกเป็นเด็กเก่งและฉลาด มีความเป็นตัวของตัวเอง

นอกจากนี้ สิ่งที่จะช่วยพัฒนาทักษะของลูกน้อยได้ดียิ่งขึ้นไปอีกคือ บุคคล เพราะการให้ลูกน้อยได้มีเพื่อนเล่น ใช้ชีวิตร่วมกับบุคคลรอบข้าง มากหน้าหลายตา จะช่วยให้เขาเรียนรู้ลักษณะของบุคคลรอบข้าง สอนให้เขาลูกจับปรับตัว เปิดรับความสุขจากคนรอบข้าง ก็จะช่วยให้เขาได้มีทักษะการใช้ชีวิตที่ดีด้วย

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Priceza.com (http://www.priceza.com/)

เครดิต :

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!