1. ให้ลูกรู้จักความลำบาก
ลำบากในที่นี้ ไม่ได้หมายความว่าให้คุณพาลูกไปบุกป่าฝ่าดง อดมื้อกินมื้อแต่หมายถึงการให้ลูกอยู่กับกระบวนการแก้ปัญหา โดยพ่อแม่ไม่เข้าไปแทรกแซงมากเกินไปความลำบากและอุปสรรค เป็นเครื่องมือฝึกฝนชั้นดีที่ทำให้ลูกเป็นคนแข็งแกร่ง ไม่เปราะบาง มีวุฒิภาวะเมื่อโตขึ้น เริ่มจากการฝึกให้ลูกทำอะไรด้วยตัวเองตามวัย โดยไม่ไปจัดการหรือปกป้องมากเกินไป ไม่เช่นนั้น ลูกจะกลายเป็นคนทำอะไรไม่เป็น อ่อนแอ เพราะเราไม่เคยฝึกนั่นเอง
2. ให้ลูกรู้จักเกื้อกูลผู้อื่น
เพราะเราจำเป็นต้องฝึกเรียนรู้ในการอยู่ร่วมกับผู้อื่นด้วย ไม่ใช่เฉพาะกับพ่อแม่เท่านั้นการฝึกให้ลูกรู้จักเป็นผู้ให้ เอื้อเฟื้อ เกื้อกูลผู้อื่น โดยพ่อแม่สอน และทำเป็นแบบอย่าง จะทำให้ลูกเป็นคนมีจิตใจอ่อนโยน ไม่เห็นแก่ตัว เป็นที่รักของคนรอบข้าง
3. ให้ลูกรับผิดชอบผลของการกระทำ
การที่พ่อแม่เข้าไปตัดวงจร ที่จะทำให้ลูกเรียนรู้ผลของการกระทำ โดยการจัดการให้ ชดเชยให้ ปกป้องมากเกินไปจะทำให้ลูกไม่เกิดความตระหนัก ในการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง ลูกจะกลายเป็นคนไม่กระตือรือร้น เฉื่อยชา ขาดแรงจูงใจ และทำอะไรไม่เป็น
4. ให้ลูกรู้จักอดทนรอคอย
พ่อแม่ฝึกได้โดยไม่ตามใจ ใช้เหตุผล ให้ลูกรู้จักรอคอยในการได้มากับอะไรสักสิ่ง ความอดทนรอคอย ยับยั้งชั่งใจ เป็นคุณสมบัติสำคัญที่ทำให้ลูกมีวุฒิภาวะทางอารมณ์ที่เหมาะสม ปรับตัวกับการอยู่ร่วมกับบุคคลอื่นได้ แม้จะมีอะไรที่ทำให้รู้สึกขัดใจก็ตาม เพราะถูกฝึกให้รู้จักอดทนมาก่อน
Credit ภาพ: http://www.wattanasatitschool.com/index.php…