การรังแกกันของเด็กๆ หรือที่เรียกว่า Bullying เดี๋ยวนี้พบบ่อยขึ้นเรื่อยๆนะคะ หมอเลยอยากเขียนเรื่องนี้ให้อ่าน ยาวเหมือนกัน แต่คิดว่ามีประโยชน์ค่ะ
อาการเช่น เมื่อกลับจากโรงเรียนแล้วเสื้อผ้าฉีกขาด ข้าวของเสียหาย ร่างกายเด็กมีรอยแผลหรือรอยช้ำที่ไม่ทราบสาเหตุ
เด็กอาจไม่บอกว่าถูกรังแกตรงๆ หมอเคยเจอเด็กมาพบด้วยอาการ อยู่ดีๆก็กลัวการไปโรงเรียน แบบไม่มีสาเหตุ การเรียนตกลง เมื่อซักประวัติเพิ่มเติม เด็กจึงยอมรับว่าถูกเพื่อนขู่เอาเงิน และทำร้ายร่างกาย เด็กบางคนอาจมีอาการเศร้า เงียบแยกตัว บางทีอาจจะอารมณ์แปรปรวนง่าย นอนไม่หลับ ฝันร้าย
เด็กที่ถูกรังแกได้ง่ายส่วนหนึ่งมักเป็นเด็กที่ขาดทักษะการสื่อสาร มีลักษณะเก็บตัว เงียบ ไม่ค่อยมีปากมีเสียง อาจจะไม่ค่อยมีเพื่อนสนิท หรือครอบครัวไม่ค่อยมีเวลาให้ เด็กไม่สามารถขอความช่วยเหลือใครได้ หรือไม่รู้จะขอความช่วยเหลืออย่างไร
เด็กส่วนหนึ่งไม่อยากบอกครูหรือพ่อแม่ว่าถูกรังแก เพราะว่า อาจจะกลัวจะถูกรังแกมากขึ้น ถูกขู่มาก่อนว่าห้ามไปบอกใคร หรือกลัวถูกล้อว่าขี้ฟ้อง
ดังนั้นหากสงสัยว่าลูกอาจจะถูกรังแก พ่อแม่ควรจะต้องพูดคุยกับลูก บอกเด็กว่าเราเป็นห่วง ทำให้เด็กรู้ว่าเราพร้อมที่จะอยู่ข้างๆและปกป้องช่วยเหลือ
ถ้าเด็กยังไม่พูด เราไม่ต้องบังคับหรือเค้นถาม เค้าอาจจะไม่กล้า หรือไม่พร้อม ก็บอกเด็กว่า อย่างไรพ่อแม่ก็อยู่ข้างๆพร้อมที่จะช่วยเหลือ และถ้าสงสัย ก็ควรพูดคุยกับครูถึงลักษณะของเด็กที่โรงเรียน เช่น เด็กเข้ากับเพื่อนได้ดีหรือไม่ มีอาการอะไรหรือสัญญาณที่ครูคิดว่าเด็กน่าจะถูกรังแกหรือไม่
แต่เมื่อวันไหนที่เด็กบอกผู้ใหญ่ว่าถูกรังแก แสดงว่าเด็กต้องการความช่วยเหลือจริงๆ ถ้าถึงเวลาที่เด็กเล่าให้ฟัง พ่อแม่ก็ควรรับฟัง สนใจที่จะช่วยเหลือ