วิธีสอนลูกให้ใช้เงินเป็น ข้อห้าม 4 ข้ออย่าทำเวลาให้ค่าขนม!

สวัสดีครับเพื่อน ๆ ใครตามอ่านเรื่องของพี่หมีอยู่บ่อย ๆ ก็น่าจะเคยอ่านเรื่องการวางแผนการเงินมาแล้วนะครับ เพราะพี่หมีอยากให้ทุกคนได้มีความรู้เรื่องวางแผนการเงินจะได้ไม่ลำบากกันนะครับ โดยเฉพาะคุณพ่อคุณแม่ที่ควรจะสอนลูกให้รู้จักวางแผนการเงินตั้งแต่เด็ก เพื่อให้ค่อย ๆ ซึมซึบไปเรื่อย ๆ จะได้สร้างนิสัยที่ดีครับ

สำหรับหลายบ้าน การเงินของเด็ก ๆ น่าจะเริ่มจากการได้ค่าขนมไปโรงเรียน ไม่ว่าจะเป็นรายวัน รายอาทิตย์ หรือรายเดือน วันนี้พี่หมีจะมาพูดถึง 4 ข้อควรระวังที่พ่อแม่หลายคนมักพลาดทำให้ไม่ได้สอนลูกให้เข้าใจการวงแผนทางการเงินตั้งแต่เด็ก หลายข้อเป็นสิ่งที่เด็กหลายคนติดนิสัยมาจนโต ทำให้เกิดปัญหาที่ใหญ่กว่าตามมา เช่น เก็บเงินไม่อยู่ เป็นหนี้หัวโต เป็นต้นครับ ไปดูกันเลยครับว่าสิ่งที่เราไม่ควรทำเมื่อเริ่มให้ค่าขนมลูก ๆ มีอะไรบ้าง

1. ไม่กำหนดค่าขนมตายตัว

พ่อแม่บางคนให้ค่าขนมเป็นครั้ง ๆ ไป โดยให้ลูกมาขอเมื่อเงินหมด หรือมาขอเมื่อต้องการซื้ออะไรเป็นครั้ง ๆ ซึ่งไม่ดีนะครับ เพราะเราจะไม่ได้สอนลูกให้รู้จักความสม่ำเสมอ และไม่สามารถเข้าใจคอนเซปต์ของการเก็บออมเงินและวางแผนการใช้จ่าย เพราะเมื่อเด็กใช้หมด ก็จะได้เงินเพิ่ม จึงไม่รู้จักประหยัดเงินครับ หากมีการกำหนดค่าขนมตายตัว เด็ก ๆ จะรู้จักการวางแผนการเงินสำหรับอนาคต โดยจะต้องบริหารเงินที่มีอยู่จนกว่าจะได้ค่าขนมรอบต่อไป และหากอยากได้ของอะไร ก็จะรู้จักดึงเงินเก็บไว้ส่วนหนึ่งเพื่อซื้อของได้ครับ

2. ให้ค่าขนมมากเกินไป

พ่อแม่ทุกคนคงอยากให้ลูก ๆ มีเงินพอกินพอใช้ แต่พี่หมีแนะนำว่าอย่าให้ค่าขนมลูก ๆ มากเกินไปนะครับ แม้ว่าเพื่อน ๆ จะมีเงินมากพอก็ตาม เพราะเพื่อน ๆ คงอยากจะสอนลูกให้รู้จักการรอสิ่งที่อยากได้ การจัดลำดับความสำคัญ และการแยกความอยากกับความจำเป็น การมีงบประมาณจำกัดจะช่วยสอนลูกให้เข้าใจว่าคนเราไม่จำเป็นต้องได้ทุกอย่างในทันที และสอนลูกว่าควรซื้อของที่จำเป็นมากกว่าของที่อยากได้เฉยๆ ครับ เพื่อน ๆ ลองประมาณค่าใช้จ่ายของลูก ๆ ว่าใช้ซื้อข้าวและเดินทางไป-กลับโรงเรียนประมาณเท่าไหร่ อาจจะเพิ่มให้อีกนิดหน่อยให้ฝึกเก็บออมได้ แต่อย่าให้มากเกินไปครับ

และหากลูก ๆ อยากได้ของอะไรที่ใช้เงินเยอะหน่อย ก็อย่าเพิ่งให้เงินไปซื้อในทันที แต่ลองสอนลูกให้หาวิธีมีเงินซื้อของ เช่น ออมเงินบางส่วนทุกเดือน หรือถ้าโตขึ้นมาหน่อยก็หางานพาร์ทไทม์ทำเพื่อให้มีรายได้เพิ่มเติมครับ

3. ไม่คุยเรื่องการออมเงิน

พี่หมีเห็นหลายบ้านยังเชื่อว่า ลูก ๆ มีหน้าที่เรียนหนังสือให้สูง ๆ และพ่อแม่มีหน้าที่หาเงินให้พวกเขาเรียนเท่านั้น แต่พี่หมีคิดว่า หน้าที่อีกหนึ่งข้อของพ่อแม่ทั้งหลายก็คือ การสอนลูกให้รู้จักรับผิดชอบตัวเอง รวมทั้งการเก็บออมเงินด้วยครับ ซึ่งเราสามารถสอนลูกเก็บเงินเป็นก้าวแรกของการวางแผนการเงิน ให้น้อง ๆ ลองเก็บเงินส่วนหนึ่งจากค่าขนมทุกเดือน ไม่ว่าจะจำนวนน้อยหรือมากก็ได้ หรือว่าจะเปิดบัญชีเงินออมให้ลูก ๆ โดยสอนลูกให้รู้จักความสม่ำเสมอเป็นหลักครับ

4. ติดสินบนกับเกรดลูก

หลายบ้านมักจะติดสินบนกับลูกเป็นของเล่นแพง ๆ หรือเงินเพื่อให้ลูกตั้งใจเรียนและได้เกรดดี ๆ ซึ่งในระยะยาวจะทำให้เด็ก ๆ ขาดแรงบันดาลใจในการเรียนรู้ด้วยตัวเองและทำเพื่อเงินแทน พี่หมีคิดว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการสอนลูกให้มีนิสัยใฝ่รู้ และตั้งใจด้วยตัวเองให้ได้ เพื่อที่น้อง ๆ จะได้ตั้งใจทำงานทุกอย่างให้สำเร็จไม่ว่าจะได้ผลตอบแทนหรือไม่ การให้รางวัลลูกเป็นสิ่งที่ดี แต่อย่าให้ถึงขึ้นสัญญากันไว้ก่อนเลยครับ เด็ก ๆ โตไปจะได้ไม่ตั้งเงื่อนไขในการทำงานครับ

พ่อแม่คนไหนยังทำ 4 ข้อที่ว่ามา พี่หมีขอให้ค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนดูนะครับ เชื่อเถอะว่าการสร้างนิสัยวางแผนการเงินตั้งแต่เนิ่น ๆ จะมีประโยชน์ต่ออนาคตของเด็ก ๆ มากทีเดียวครับ และเมื่อพวกเขามีฐานะมั่นคง ก็จะได้ช่วยดูแลพ่อแม่ได้ด้วย อิอิ เพื่อน ๆ คนไหนสนใจเรื่องราวเกี่ยวกับการวางแผนการเงินเพิ่มเติม ก็ตามเข้าไปดูในเว็บไซต์โกแบร์ได้เลยนะครับ พี่หมีอัพเดทเรื่องน่าสนใจไว้เยอะทีเดียวครับ