วิธีลงโทษเมื่อลูกทำผิด แบบไหนถึงจะเหมาะสม?!

จากกรณีนักเรียนกระโดดตึกอาคารเรียนฆ่าตัวตาย โดยผู้ปกครองออกมาเปิดเผยว่า โรงเรียนมีการประจานหน้าเสาธงว่าเด็กขโมยเงินเพื่อน จึงอาจเป็นสาเหตุให้เด็กอับอายและคิดสั้น เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่มือใหม่หลายๆ คน คงเกิดคำถามในใจถึงวิธีการลงโทษเด็กว่า แค่ไหนอย่างไรจึงจะเหมาะสม?

1.เริ่มแรกคุณพ่อคุณแม่ต้องมีการกำหนดบทลงโทษที่ชัดเจนเสียก่อนว่า หากกระทำความผิดเช่นนี้ จะได้รับการลงโทษอย่างไร ให้เจ้าตัวเล็กรู้ว่าจะต้องโดนลงโทษอย่างไรถ้าทำผิด

2.หากจะตักเตือนในการกระทำผิดนั้นควรตักเตือนด้วยความเป็นห่วง อย่าใส่อารมณ์หรือใช้คำพูดที่รุนแรง ควรอธิบายให้ลูกเข้าใจว่า กฎที่ตั้งไว้คืออะไร จำเป็นต้องลงโทษอย่างไร

3.คุณพ่อคุณแม่ต้องบอกเหตุผลว่าทำไมการกระทำนั้นจึงผิด ส่งผลไม่ดีอย่างไร ให้ลูกเข้าใจและเรียนรู้ผลจกการทำความผิด เพราะหากไม่อธิบาย เด็กจะสับสนและทำผิดซ้ำแล้วซ้ำอีก

4.ไม่ควรบ่นด่า เพราะนอกจากจะไม่ทำให้เด็กเข้าใจแล้วยังทำให้เด็กเกิดความรู้สึกเสียใจอีกด้วย เพียงแค่พลิกคำพูดนิดเดียวความรู้สึกก็เปลี่ยนได้

5.หากเจ้าตัวซนทำผิดในที่สาธารณะ อย่าดุด่าว่ากล่าวหรือลงโทษลูกในที่สาธารณะต่อหน้าคนอื่น จะกลายเป็นการประจานลูกและทำให้ลูกอับอายแทน นำไปสู่การเก็บความโกรธและคับแค้นใจไว้ จนอาจกลายเป็นปัญหาในภายหลังได้ ขอให้ยึดหลัก “ชมในที่แจ้ง ต่อว่าในที่ลับ”

6.เลือกวิธีลงโทษให้เหมาะสมกับวัย สำหรับเด็กวัยซนอาจลงโทษโดย ให้ลูกนั่งนิ่งๆ โดยไม่มีกิจกรรมใดๆ ประมาณ 1-2 นาที แต่ยังคงต้องอยู่ในสายตาพ่อแม่ หรืองดกิจกรรมที่ลูกชื่นชอบ เช่น งดดูการ์ตูนเรื่องโปรด หรือฝึกให้ลูกรับผิดชอบในสิ่งที่ทำผิด เช่น ลูกเล่นอาหารจนโต๊ะเลอะเทอะก็ต้องเช็ดโต๊ะให้สะอาด

สำหรับบ้านที่เห็นว่า “การตี” คือวิธีการลงโทษที่ได้ผล และสามารถแก้ปัญหาพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ของลูกได้ ก็สามารถใช้วิธีนี้ได้ แต่การตีควรมีการตกลง และทำความเข้าใจกับลูกก่อนว่า เขาจะถูกตีก็ต่อเมื่อทำผิดในเรื่องใด ไม่ใช่ตีสุ่มสี่สุ่มห้า ที่สำคัญควรเป็นการตีที่มือเบาๆ เพื่อให้รู้ว่าผิด ไม่ใช่ตีแบบใส่อารมณ์