อาหารบำรุงก่อนตั้งครรภ์ เตรียมความพร้อมสำหรับคุณแม่

อาหารบำรุงก่อนตั้งครรภ์ เตรียมความพร้อมสำหรับคุณแม่

อาหารบำรุงก่อนตั้งครรภ์ ถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งสำหรับลูกน้อยที่กำลังจะเกิดในอนาคต สำหรับคุณแม่ที่มีภาวะโภชนาการดีตั้งแต่ก่อนเริ่มตั้งครรภ์ และในระยะตั้งครรภ์ จะทำให้มีอาการแทรกซ้อนน้อย ลูกในครรภ์จะมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง และหลังคลอดลูกก็จะมีสุขภาพแข็งแรงดี ผู้เป็นแม่จึงต้องเตรียมตัวให้มีโภชนการที่สมบูรณ์ และไม่ขาดสารอาหารที่สำคัญ โดยเฉพาะสารอาหารหลักเช่น โปรตีน กรดโฟลิก ธาตุเหล็ก ไอโอดีน เป็นต้น เรามาดูกันต่อเลยดีกว่าค่ะ ว่าสารอาหารแต่ละตัวนั้น มีความสำคัญอย่างไรกันบ้าง

โปรตีน Protein โปรตีนจะช่วยทำให้การเจริญเติบโตของลูกน้อยเป็นไปอย่างสมบูรณ์ หากร่างกายขาดโปรตีนจะทำให้ลูกน้อยเจริญเติบโตไม่เป็นไปตามปกติ ควรบริโภคอาหารประเภท เนื้อสัตว์ ชีส นม ไข่ และอาหารทะเล

กรดโฟลิก Folic Acid เป็นตัวช่วยเรื่องเซลล์เม็ดเลือดแดงโดยเฉพาะ จะช่วยสร้างเซลล์สมองของลูกน้อย หากคุณแม่ขาดกรดโฟลิก ในช่วงครรภ์ 1-2 เดือนแรก จะทำให้พัฒนาการทางสมอง และระบบประสาท ผิดปกติได้ หรือร้ายแรงที่สุดอาจทำให้ถึงขั้นแท้งได้ คุณแม่ควรที่จะรับประทานกรดโฟลิคตั้งแต่เนิ่นๆ หรือทานเป็นอาหารเสริมเลยก็ยิ่งดี ควรรับประทานกรดโฟลิก 400 ไมโครกรัมต่อวัน อาหารประเภทที่ให้สารอาหารกรดโฟลิก คือ ไข่แดง ไก่ เป็ด ตับ ผักใบเขียวเข้ม อะโวคาโด ฟักทอง แคนตาลูป เป็นต้น

ธาตุเหล็ก Iron เป็นธาตุที่มีความสำคัญในการผลิตเฮโมโกลบิน ถ้าร่างกายขาดธาตุเหล็ก จะก่อให้เกิดโลหิตจาง ทำให้พัฒนาการทางสมองของลูกน้อยไม่ดี ส่งผลต่อระดับการเรียนรู้ และสติปัญญา ควรบริโภค เนื้อสัตว์ หอยนางรม หอยกาบ ตับ ไข่แดง ใบชะพลู หน่อไม้ฝรั่ง ถั่วเหลือง เป็นต้น

ไอโอดีน Iodine เป็นแร่ธาตุที่มีความสำคัญอย่างมากต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์ สำหรับผู้ที่ขาดธาตุไอโอดีนจะส่งผลให้พัฒนาการทางสมองของลูกผิดปกติ มีความคิดอ่านช้าลง ง่วงซึม เชื่องช้า การทำงานกล้ามเนื้อไม่ประสานกัน ธาตุนี้พบมากในอาหารจำพวก ปู หอย ปลาทะเล และผักที่ปลูกในดินที่มีแร่ธาตุไอโอดีนสูง

การเตรียมความพร้อมสำหรับคุณแม่ในเรื่องอาหารการกินนั้นมีความสำคัญอย่างมาก แต่จะดียิ่งขึ้นถ้าคุณแม่มีการเตรียมพร้อมอย่างที่กล่าวไปข้างต้น เพราะแค่ไม่ดีต่อลูกน้อย ยังดีต่อตัวคุณแม่เองด้วย ยิ่งคุณแม่ได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนตามที่ร่างกายต้องการยิ่งส่งผลดีต่อสุขภาพลูกน้อยในอนาคตอีกด้วยยค่ะ

ต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญได้ที่ www.vejthani.com

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์