เสียงเพลงของคุณเเม่ช่วยพัฒนาสมองของลูกน้อย

เสียงเพลงของคุณเเม่ช่วยพัฒนาสมองของลูกน้อย

ชนใดไม่มีดนตรีกาล ในสันดานเป็นคนชอบกลนัก อีกใครฟังดนตรีไม่เห็นเพราะ เขานั้นเหมาะคิดขบถอัปลักษณ์ ฤาอุบายมุ่งร้ายฉมังนัก มโนหนักมืดมัวเหมือนราตรี และดวงใจย่อมดำสกปรก ราวนรกชนเช่นกล่าวมานี้ ไม่ควรใครไว้ใจในโลกนี้ เจ้าจงฟังดนตรีเถิดชื่นใจ”

จะเห็นได้ว่าเสียงเพลง เสียงดนตรีเราจะได้ยินมาตั้งแต่เกิด ไม่มีวันไหนที่จะไม่ได้ยินเสียงเพลง  เทศกาลต่างๆก็จะมีเพลงประจำไม่ว่าจะปีใหม่ สงกรานต์ ลอย-กระทง เพลงชาตินี่มีทุกประเทศ  เสียงเพลงสามารถปลุกพลังให้ลุกสู้  ให้เสียใจ หรือจะให้รอยยิ้มก็ได้

จากการศึกษาในทางการแพทย์นั้น พบว่าทารกน้อยในครรภ์มารดา ก็สามารถรับรู้เสียงได้แล้ว โดยเสียงแรกๆ ที่ทารกรับรู้ได้ นั่นก็คือเสียงเต้นของหัวใจคุณแม่ ทารกในครรภ์สามารถรับรู้ได้ และถ้าบอกว่า ดนตรีให้ความสุข ความผ่อนคลายกับผู้ใหญ่อย่างไร ดนตรีก็จะให้ความสุข ความผ่อนคลายให้กับทารกในครรภ์ได้ใกล้เคียงกัน โดยดนตรีประเภทนี้ควรเป็นดนตรีที่มีจังหวะง่ายๆ สบายๆ ไม่เร็วหรือเร่งเร้ามากเกินไป ในบางครั้งถ้าเปิดดนตรีให้ทารกฟังไม่ได้ คุณแม่ที่ร้องเพลงเพราะๆ อาจจะร้องให้ฟังเสียเองก็ได้นะคะ

การเปิดเพลง หรือ ดนตรีเพราะๆ จังหวะสบายๆ ให้ทารกฟัง นอกจากการที่ทารกจะได้ยินเสียงดนตรีแล้ว ตัวคุณแม่เองก็ได้ยินดนตรีไปด้วย ซึ่งก็จะมีผลต่ออารมณ์ของตัวคุณแม่เอง ทำให้รู้สึกเพลิดเพลินสบายใจ และร่างกายของแม่ก็จะหลั่งสารแห่งความสุขคือ เอนโดรฟิน เมื่อมีสารนี้มากก็จะส่งผลถึงทารกน้อยในครรภ์ จะกระตุ้นให้เด็กมีจิตใจที่ดี มีพัฒนาการที่ดีทั้งด้านความคิดและการเรียนรู้ มีความฉลาดด้านอารมณ์ที่ดีขึ้น

 


เสียงเพลงของคุณเเม่ช่วยพัฒนาสมองของลูกน้อย

    ประโยชน์ของดนตรีคุณพ่อคุณเเม่ ต่อการพัฒนาลูกน้อย

 

     1.พัฒนาการทางด้านสมอง เสียงเพลงจะช่วยให้เด็กผ่อนคลาย และจะหลั่งสารที่สามารถกระตุ้นให้สมองทำงานได้อย่างเต็มที่ ช่วยในเรื่องของการจดจำ การเรียนรู้ได้ดี และมีสมาธิมากขึ้น

 

     2.พัฒนาทักษะด้านภาษา ในเพลงแต่ละเพลงจะประกอบด้วยบทประพันธ์ คำพูดที่เรียบเรียงอย่างไพเราะ เด็กจะจดจำ และสามารถเลือกสรรภาษาเพื่อการสื่อสารได้ดี

 

     3.พัฒนาการด้านร่างกาย ดนตรี มีจังหวะที่หลากหลาย ช่วยกระตุ้นให้เด็กขยับร่างกายให้เข้ากับจังหวะดนตรี พัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กและมัดใหญ่ให้มีความแข็งแรงมากขึ้น


      4.พัฒนาทักษะด้านจิตใจ เสียงดนตรีจะช่วยทำให้จิตใจมีความอ่อนโยน สงบนิ่ง มีความมั่นคง

 

     5.พัฒนาทางด้านจินตนาการ ดนตรีสามารถสร้างเสริมความคิดสร้างสรรค์ เมื่อเด็กได้ฟังเพลง พร้อมคำประพันธ์ เด็กๆ จะเกิดการจินตนาการเป็นภาพตามบทเพลง

 

     6.พัฒนาการทางด้านสังคม ดนตรีทำให้เด็กมีพัฒนาการทางสังคม โดยการมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมต่างๆ กับผู้อื่น เช่น การร้องเพลง การเคลื่อนไหวประกอบจังหวะเพลงร่วมกับเพื่อนๆ หรือในหมู่ญาติพี่น้อง

 

     7.พัฒนาทักษะด้านอารมณ์ เสียงดนตรีจังหวะช้า จะช่วยกล่อมเกลาจิตใจ และทำให้เด็กความรู้สึกสงบ สามารถลดอาการฉุนเฉียว ขี้โมโห ให้กลายเป็นเด็กว่านอนสอนง่าย ในขณะที่เสียงดนตรีที่มีจังหวะเร็ว จะช่วยให้เด็กรู้สึกตื่นตัว สดชื่น แจ่มใส

 

     8.พัฒนาทักษะการเข้าใจตัวเอง เมื่อเด็กๆ ได้สัมผัสกับดนตรี จะทำให้สามารถพัฒนาความรู้ ความสามารถทางดนตรีต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ว่าเด็กไม่สนใจเรียนดนตรีเป็นอาชีพ แต่ความรัก ความซาบซึ้งในดนตรี ย่อมจะติดตัวเด็กไปตลอด ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถสร้างให้เกิดกับเด็กได้ง่ายกว่าในวัยผู้ใหญ่

 

     9.ช่วยบำบัดอาการป่วย เสียงดนตรีนอกจากจะช่วยทำให้เด็กรู้สึกผ่อนคลายแล้ว ยังส่งผลกับกลไกการทำงานต่างๆ ของร่างกาย เช่น การเปลี่ยนแปลงของอัตราการหายใจ อัตราการเต้นของชีพจร ความดันโลหิต การตอบสนองของม่านตา ความตึงตัวของกล้ามเนื้อ และการไหลเวียนของเลือด จึงมีการนำดนตรีมาประยุกต์ใช้ในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บทั้งร่างกายและจิตใจ

 

     10.ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และในเวลาเดียวกันก็สามารถพัฒนาทักษะในด้านต่างๆได้อีกด้วย

 

คุณพ่อคุณแม่ลองให้เด็กได้ฟังเพลง และอาจจะเต้นไปกับลูกน้อยด้วยก็ได้ ถือเป็นกิจกรรมที่น่ารักอย่างหนึ่งในครอบครัว  และลูกน้อยของเราก็จะเป็นเด็กที่อารมณ์ดีอีกด้วย  

 


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์