สอนลูกยังไงให้ปลอดภัย จากการถูกล่วงละเมิดทางเพศ

สอนลูกยังไงให้ปลอดภัย จากการถูกล่วงละเมิดทางเพศ

#สอนลูกยังไงให้ปลอดภัยจากการถูกล่วงละเมิดทางเพศ

"หนึ่งในสี่ของเหยื่อทั้งหมดที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ คนที่กระทำไม่ใช่คนแปลกหน้า"

วันก่อนมีข่าวเศร้าเรื่องเด็กผู้หญิงอายุแปดขวบคนหนึ่งถูกล่วงละเมิดทางเพศจนถึงแก่ชีวิต รายละเอียดของข่าวช่างน่าสลดใจ 

น่าเศร้าที่ในโลกใบนี้มีเด็กๆมากมาย ซึ่งเดี๋ยวนี้ไม่ใช่แต่เฉพาะเด็กหญิง เด็กชายก็มี ที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ อาจจะไม่ถึงกับมีการสอดใส่ แต่อาจจะเป็นการสัมผัส การบังคับให้สำเร็จความใคร่ ที่เศร้ากว่านั้นคือ ส่วนใหญ่คนที่ทำร้ายเด็กมักเป็นคนใกล้ชิดที่เด็กไว้ใจ เช่น ญาติ ครู คนแถวบ้าน ที่มาเล่นกับเด็กบ่อยๆ ทำให้เด็กที่ถูกทำร้ายยิ่งรู้สึกแย่เพราะคนที่ทำร้ายเค้าเป็นคนที่เค้าไว้ใจ รักและเคารพ

เด็กๆหลายคนเมื่อถูกทำร้ายก็ไม่กล้าที่จะบอกใคร ปล่อยให้เวลาผ่านมาเนิ่นนาน บางคนไม่รู้ว่าสิ่งที่ผู้ใหญ่ทำคืออะไร บางคนก็ถูกขู่ว่าห้ามบอกใคร

บาดแผลที่เกิดขึ้นไม่ใช่เฉพาะแต่เป็นบาดแผลทางกาย แต่เป็นบาดแผลร้าวลึกในจิตใจที่แม้เวลาจะผ่านล่วงเลยไป แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นไม่ได้จางหายไปง่ายๆ บางครั้งอาจเกิดเป็นความเครียดที่มีผลต่อการใช้ชีวิตต่อไปในอนาคต ยากจะลืมเลือน

พ่อแม่จึงควรเป็นคนที่สร้างเกราะคุ้มกันให้ลูก สอนลูกตั้งแต่เล็กๆ เพื่อป้องกันอันตรายที่เกิดจากการถูกล่วงละเมิด

1. สอนให้เด็กเรียนรู้เรื่องอวัยวะเพศ เริ่มสอนช่วงที่เด็กเรียกอวัยวะได้ อย่างตอนอาบน้ำก็สอนเรียกอวัยวะเพศ ใช้ชื่อที่เด็กเข้าใจ ไม่ต้องเป็นชื่อทางการ โดยอาจจะเรียกของผู้ชายว่า จู๋ เจี๊ยว ของผู้หญิง ก็ ปิ๊ หรือจิ๋ม 

2. บอกเด็กว่าส่วนไหนบนร่างกายที่พ่อแม่เท่านั้นที่เห็นได้ ถ้าอยู่กับคนอื่นๆต้องใส่เสื้อผ้าไม่ให้ใครเห็น แต่ในบางกรณี เช่น ถ้าไปหาหมอก็อาจจะทำได้เพราะพ่อแม่อยู่กับหนูด้วย หมอตรวจร่างกายหนู

3. บอกเด็กว่าส่วนไหนบนร่างกายที่พ่อแม่เท่านั้นที่สัมผัสได้ สอนให้เด็กรู้จักปฏิเสธ ถ้ามีคนอื่นที่ไม่ใช่พ่อแม่มาสัมผัส เช่น หน้าอก อวัยวะเพศ 

อาจารย์ของหมอท่านหนึ่งสอนลูกสาวว่า ห้ามให้ใครมาจับแก้ม หอมแก้ม จุ๊บปากถ้าไม่ใช่พ่อแม่ ถ้าใครทำหรือมาขอจับ(ส่วนใหญ่คนที่ทำร้ายเด็กมักจะมาพูดแบบขอร้อง เช่นขอเล่นด้วยกับจุ๋มจิ๋มหนู) ให้บอกเค้าไปว่า พ่อไม่ให้ทำ และให้มาบอกพ่อ หมอเคยสงสัยว่ามันดูจะเกินไปหรือเปล่า บางทีผู้ใหญ่อาจจะทำเพราะเอ็นดู แต่อาจารย์บอกว่า มีวิธีแสดงความเอ็นดูหลายอย่าง มาคิดๆดูจริงๆแล้วก็ดูจะป้องกันได้ดี แถมยังไม่ติดโรคอื่นๆด้วย เช่น หวัด เป็นต้น 

4. ถ้ามีใครก็ตามที่มาจับหรือดูในส่วนของร่างกายที่พ่อแม่บอกว่าห้ามใครเห็นหรือจับ เด็กจะต้องรีบบอกพ่อแม่ทันที แม้ว่าคนที่ทำจะขอร้อง แต่สำคัญมากที่ต้องมาบอกพ่อแม่ ตรงนี้ก็ต้องเน้น เพราะบางทีเด็กอาจจะถูกขอหรือขู่ ต้องบอกว่าถ้าเด็กมาบอกพ่อแม่ ยังไงพ่อแม่จะช่วยไม่ให้ใครมาทำอะไรเขาได้

5. สอนให้เด็กรู้ว่าถ้าใครก็ตามที่มาขอดูหรือจับส่วนนั้น ต้องพูดไปเลยว่า ไม่ได้ และอาจจะวิ่งหนีออกมา ไม่ต้องเกรงใจแม้ว่าคนๆนั้นจะเป็นคนที่เด็กเคารพก็ตาม

อย่านิ่งนอนใจว่าลูกของคุณอยู่ในที่ๆปลอดภัย เพราะเหตุการณ์การถูกล่วงละเมิดครึ่งหนึ่งเกิดที่บ้านหรือสถานที่ที่ไม่ห่างจะบ้านเท่าไหร่ สถานที่อื่นๆเช่น โรงเรียน บ้านเพื่อน บ้านญาติ เป็นต้น

ถ้าไม่อยากให้เรื่องเศร้าสลดที่เกิดขึ้นเกิดซ้ำสอง พวกเราก็ต้องช่วยกันดูแลและป้องกันคนละไม้คนละมือ 

หรือถ้าพบเห็นเหตุการณ์หรือสถานการณ์ที่เด็กมีความเสี่ยงที่จะถูกทารุณกรรมสามารถที่จะติดต่อไปได้ที่มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก 02-412-0739 นะคะ 

#หมอมินบานเย็น

ขอบคุณเนื้อหาจาก FB : เข็นเด็กขึ้นภูเขา

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์