บาดแผลจากความรุนแรงที่ถูกส่งผ่านออกมาจากคำพูดและการกระทำ‬

        "เด็กที่เจ็บปวดก็จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่เจ็บปวดและผู้ใหญ่ที่เจ็บปวด นอกจากตัวเองจะเจ็บปวดก็จะไปทำร้ายคนอื่นให้เจ็บปวดได้ ด้วย" ถ้อยคำหรือการกระทำที่รุนแรงที่พ่อแม่ใช้เพื่อจัดการกับพฤติกรรมไม่ดีของเด็กหรือใช้เวลาที่ไม่พอใจเด็กนั้น ในตอนแรกอาจได้ผลดีในการหยุดพฤติกรรมนั้นๆ หรือทำให้เด็กนิ่งฟังที่เราพูด

แต่ว่าคำพูดที่มีลักษณะดูถูกประชดประชัน  ทำร้ายจิตใจคนฟังจะส่งผลกระทบระยะยาวตามมากับจิตใจของเด็กที่สำคัญการที่เราพูดจารุนแรงไม่ได้ทำให้เด็กดีขึ้นจริงๆ นอกจากจะทำให้พ่อแม่รู้สึกสะใจเหมือนได้ระบายความโกรธหรือความเครียดอะไรต่างๆที่เก็บไว้ (บางทีเครียดจากเรื่องอื่นๆ)

จากการศึกษาพบว่าเด็กที่พ่อแม่มีลักษณะเลี้ยงดูด้วยคำพูดและการกระทำที่รุนแรง เพิ่มการเกิดพฤติกรรมก้าวร้าว เช่น การทะเลาะเบาะแว้ง พูดปด และเพิ่มการเกิดภาวะซึมเศร้าในเด็กในเวลาต่อมา ทำให้ส่งผลถึงการเรียนที่แย่ลงด้วย เด็กบางคนมีพฤติกรรมผิดปกติฝันร้าย ปัสสาวะรดที่นอน นอนไม่หลับ คำพูดและการกระทำจากคนที่เด็กรักและเชื่อถือ สามารถส่งผ่านไปยังเด็ก ๆ จนซึมซับเป็นตัวตนและการแสดงออกยิ่งพูดซ้ำๆบ่อย ๆ เป็นเวลานาน เด็กก็จะซึมซับคำพูดเหล่านั้นว่าเป็นตัวเขาจริง ๆ นอกจากนั้นยังทำให้รู้สึกที่ไม่มีค่า ไม่อะไรดีในสายตาพ่อแม่ ซึ่งเป็นคนที่เขารัก นับประสาอะไรกับคนรอบข้าง ก็คงไม่มีใครเห็นว่าเขามีอะไรดี

ความรู้สึกที่เกิดขึ้นจะทำให้เด็กรู้สึกไร้ค่า ไม่เชื่อมั่นในความสามารถของตนเอง คิดว่าตัวเองไม่มีประโยชน์ ทำให้รู้สึกซึมเศร้าท้อแท้และทำให้บางคนไปหาทางออกด้วยการมีพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรงเพราะการพบเห็นมาจากผู้ใหญ่ที่ทำกับเขาหรือเด็กก็อาจจะไปหากลุ่มเพื่อนที่พอจะยอมรับเขา แม้ว่าจะเป็นกลุ่มเพื่อนที่ชวนเขาไปทำอะไรไม่ดีแต่เขาก็จะยอมทำ เพียงเพื่อมันทำให้เขาดูมีคุณค่าขึ้นมาบ้างในสายตาใครสักคน

สุดท้ายก็กลายเป็นทำร้ายตัวเองให้เจ็บปวดมากขึ้นและทำให้คนอื่นเจ็บปวดไปด้วย คำพูดและการกระทำของพ่อแม่มีอิทธิพลมหาศาลกับเด็กเพราะคนที่สำคัญอย่างมากของเด็ก ๆ จึงมีอิทธิพลกับตัวเด็กมากดังนั้นพยายามตั้งสติให้ดีก่อนที่เราจะพูดหรือทำอะไร

‪#‎หมอมินบานเย็น‬