ถ้าเด็กโตมาด้วยการถูกตำหนิติเตียน เขาจะเรียนรู้ที่จะกล่าวโทษคนอื่น

"ถ้าเด็กโตมาด้วยการถูกตำหนิติเตียน เขาจะเรียนรู้ที่จะกล่าวโทษคนอื่น

ถ้าเด็กโตมาท่ามกลางความเกลียดชัง เขาจะเรียนรู้ที่จะทะเลาะเบาะแว้ง

ถ้าเด็กโตมาด้วยความรู้สึกหวาดกลัว เขาจะกลายเป็นคนที่ประหวั่นพรั่นพรึงและเกรงกลัวกับทุกๆเรื่องได้ง่าย

ถ้าเด็กโตมาท่ามกลางความสงสาร เขาจะรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนน่าสงสาร

ถ้าเด็กโตมาท่ามกลางคนที่ดูถูกเหยียดหยาม เขาจะกลายเป็นคนไม่กล้าแสดงออก

ถ้าเด็กโตมาท่ามกลางความริษยา เขาก็จะกลายเป็นคนขี้อิจฉาคนอื่น

ถ้าเด็กโตมาด้วยความอับอาย เขาจะกลายเป็นคนที่รู้สึกผิดได้ง่ายกับเรื่องต่างๆ

แต่ว่า...

ถ้าเด็กโตมาท่ามกลางความอดทนของผู้ใหญ่ เขาจะกลายเป็นคนที่หนักแน่นและอดทนกับเรื่องล่อตาล่อใจต่างๆ

ถ้าเด็กโตมาด้วยการส่งเสริมและให้กำลังใจอย่างเหมาะสม เขาจะเป็นคนที่มีความมั่นใจกับทุกสิ่ง

ถ้าเด็กโตมาด้วยการชื่นชมในเรื่องที่เขาทำได้ดีและถูกต้อง เขาก็จะมีแนวโน้มที่จะชื่นชมในสิ่งต่างๆที่ดีที่เขาพบเจอ

ถ้าเขาโตมาด้วยการถูกยอมรับจากคนรอบข้าง เขาจะเรียนรู้ที่จะแบ่งปันความรักให้คนอื่นๆ

ถ้าเด็กได้รับการรับรองในการกระทำต่างๆที่เหมาะสมของเขา เขาจะรู้สึกรักและชื่นชมตัวเองได้

ถ้าเด็กโตมาท่ามกลางผู้ใหญ่ที่ซื่อสัตย์ เขาก็จะกระทำแต่ความจริง

ถ้าเด็กโตมาท่ามกลางความเท่าเทียม เขาจะเป็นคนที่รักความยุติธรรม

ถ้าเด็กโตมาด้วยความเอาใจใส่จากผู้อื่น เขาจะเรียนรู้ที่จะมีจุดมุ่งหมายหมายในชีวิต

ถ้าเด็กโตมาท่ามกลางผู้ใหญ่ที่แบ่งปันเสียสละ เขาจะเป็นผู้ใหญ่ที่มีน้ำใจเอื้ออารี

ถ้าเด็กโตมาด้วยความรู้สึกปลอดภัย เขาจะเชื่อมั่นในตัวเองและคนรอบข้าง

ถ้าเด็กโตมาท่ามกลางไมตรีและมิตรภาพ เขาก็จะเรียนรู้ว่าโลกเป็นสถานที่ที่น่าอยู่เป็นอย่างยิ่ง..."

(ถอดความภาษาไทยจากหนังสือ Children Learn What They Live: Parenting to Inspire Values โดย Dorothy Law Nolte)

‪#‎หมอมินบานเย็น‬