คุณแม่ท่านหนึ่งพาลูกวัย 4 ขวบ มาพบหมอด้วยเรื่องพัฒนาการด้านภาษาล่าช้ายังพูดได้แค่เป็นคำๆ มีอาการซน สมาธิสั้น เดิมที เด็กจะอยู่กับยายเป็นหลัก แม่ทำงานต่างจังหวัด มาหาลูกได้เดือนละครั้ง ส่วนพ่อแยกทางกันไปนานแล้ว ยายยังต้องทำงานขายของที่บ้านและเลี้ยงเด็กไปด้วย ซึ่งหมอมองว่าเป็นภาระที่หนักทีเดียว
นอกจากเวลาที่มีให้เด็กจะน้อยแล้ว อายุก็เริ่มมากขึ้น คงลำบากที่จะปรับพฤติกรรมเด็กที่ซนและเลี้ยงยากแบบเด็กคนนี้ คุณแม่ท่านนี้เล็งเห็นว่า ลูกมีพัฒนาการล่าช้า หากปล่อยไว้แบบนี้ต่อไป พัฒนาการยิ่งไม่กระเตื้องเป็นแน่หรือไม่ยายก็คงหมดแรงไปเสียก่อนจึงตัดสินใจลาออกจากงานที่เดิม มาหางานทำใกล้บ้านแทนเพื่อมีเวลาดูแลลูกแบบเต็มที่แล้วพามาพบแพทย์ คุณแม่มีท่าทีที่กังวลใจ สับสนว่าตัวเองตัดสินใจถูกหรือเปล่า ที่ทิ้งงานที่กำลังไปได้ดี
หมอจึงบอกแม่ท่านนั้นไปว่า“หมอรู้ว่าเป็นเรื่องยากลำบาก แต่คุณแม่ก็ตัดสินใจได้อย่างกล้าหาญมากครับ และหมอคิดว่าเป็นการตัดสินใจที่คุ้มมากๆ” คุ้มของหมอไม่ใช่วัดผลที่ตัวเงินหรือรายได้แต่เป็นความคุ้มค่า ในเรื่องพัฒนาการของลูก ซึ่งมีหน้าต่างแห่งโอกาสพัฒนาในช่วงต้นๆของชีวิตเท่านั้นคุ้มที่คุณมีเวลาสร้างสายใยความผูกพันและชื่นชมกับการเติบโตของลูกได้อย่างใกล้ชิด
...การเติบโตของลูก เงินเป็นสิ่งสำคัญแต่การเติบโตของลูก เวลา และความใส่ใจจากพ่อแม่เป็นสิ่งสำคัญกว่า...
อย่าละทิ้งช่วงเวลาอันสวยงามระหว่างคุณกับลูก เพียงเพราะคุณต้องเลือกงานมาก่อนเลยนะครับ
กระทู้ร้อนแรงที่สุดของวันนี้
กระทู้ล่าสุด
รูปเด่นน่าดูที่สุดของวันนี้
