9 สิ่งควรทำ ถ้าไม่อยากให้ลูกเป็นเด็กขี้โรค

9 สิ่งควรทำ ถ้าไม่อยากให้ลูกเป็นเด็กขี้โรค

แม้ว่าลูกของคุณอาจดูภายนอกว่าร่าเริงแจ่มใสและแข็งแรงดี แต่รอบตัวของลูกนั้นยังคงเต็มไปด้วยเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และไวรัสหลายชนิด หากลูกรักมีภูมิต้านทานโรคมากพอ เขาก็จะสามารถต่อสู้กับเชื้อโรคทั้งหลายได้ ไม่เป็นเด็กขี้โรค เจ็บป่วยบ่อย เรามีเคล็ดลับเพิ่มภูมิคุ้มกันโรคให้ลูกน้อยมาฝาก เพียงขยันทำ 9 สิ่งนี้บ่อยๆ ก็ช่วยให้ลูกน้อยห่างไกลโรคได้

ชวนลูกเล่นโยคะ หรือออกกำลังกายอื่นๆ เป็นประจำทุกวัน เช่น จ๊อกกิ้ง วิ่ง ขี่จักรยานจะช่วยเผาผลาญพลังงาน และทำให้ลูกหิว และยังเป็นการกระตุ้นระบบประสาท ต่อมไร้ท่อ ระบบทางเดินอาหาร และระบบไหลเวียนโลหิต ทำให้ลูกมีสุขภาพที่แข็งแรง

เพิ่มผลไม้อย่างสตรอเบอร์รี่ ส้ม และกีวี เข้าไปในมื้ออาหารของลูก จะช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันร่างกายทำงานดีขึ้น เนื่องจากผลไม้เหล่านี้มีวิตามินซีสูง ซึ่งเป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อการสร้างภูมิคุ้มกัน และยังอุดมไปด้วยแร่ธาตุ ใยอาหาร และน้ำ โดยคุณแม่อาจเลือกเป็นผลไม้หลากสีสัน ตามฤดูกาลก็ได้เช่นกัน

หากเด็กไม่ได้นอนหลับอย่างน้อยวันละ 7 ชั่วโมง เขาจะอารมณ์ไม่ดี และไม่อยากอาหาร งานวิจัยหลายชิ้นพบว่า การนอนหลับพักผ่อนที่ไม่เพียงพอทำความเสียหายและทำลาย T-cell ในระบบภูมิคุ้มกันร่างกาย ดังนั้น การนอนหลับอย่างเพียงพอคือสิ่งแรกที่คุณแม่ควรสอนลูก

การรักษาความสะอาด ไม่ได้ช่วยสร้างภูมิต้านทานโรคได้โดยตรง แต่ว่ามันช่วยลดเชื้อโรค และช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันไม่ต้องทำงานหนัก ก่อนที่จะกินหรือดื่มอะไรเข้าไป คุณแม่ต้องแน่ใจว่า ลูกได้ล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง สุขอนามัยเป็นสิ่งสำคัญอย่างมากต่อสุขภาพ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่า ทำไมคุณแม่จึงต้องพกทิชชูเปียกติดตัวเสมอ เมื่อออกไปข้างนอกกับลูก

คุณแม่อาจซื้อเจลล้างมือกลิ่นหอมถูกใจลูกพกติดกระเป๋าไปด้วย เพื่อกระตุ้นให้ลูกอยากล้างมือทุกครั้งหลังทำกิจกรรมต่างๆ เช่น เล่นกับสัตว์เลี้ยง เล่นที่สนามเด็กเล่น หรือแม้แต่หลังจากใช้ห้องน้ำเสร็จ นอกจากนี้ การเปลี่ยนแปรงสีฟันให้ลูกเป็นประจำยังช่วยลดการติดเชื้อแบคทีเรียได้ด้วย

การให้ความรักด้วยการอุ้มลูก กอดลูก หอมแก้ม นวด และการดูแลเอาใจใส่ลูกน้อยในทุกๆ วัน เป็นยาที่ดีที่สุดในการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันให้กับเขา ความสุขและความรู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่บ้านกับคนในครอบครัวนี้เองที่ทำให้ลูกมีสุขภาพดี

มีงานวิจัยจำนวนมากที่พบว่า การหัวเราะ และบรรยากาศที่ดีช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันได้ พลังงานที่ลูกใช้ไปกับการหัวเราะจะทำให้ภูมิคุ้มกันทำงานได้ดีขึ้น ในขณะที่ความเครียดจะเป็นตัวทำลายระบบภูมิคุ้มกัน และนำไปสู่การเป็นโรคต่างๆ ตามมา

 


9 สิ่งควรทำ ถ้าไม่อยากให้ลูกเป็นเด็กขี้โรค

วัยเด็กเป็นช่วงเวลาที่เด็กๆ อยากจะลิ้มลองอาหารจังก์ฟู้ด โซดา และช็อกโกแลต แต่คุณแม่ควรฝึกให้ลูกกินผักสดๆ อย่าง แครอท ถั่วเขียว พริก มันฝรั่งหวาน และผักใบเขียวที่มีวิตามินซีสูง ผักเหล่านี้ยังช่วยในการซ่อมแซมดีเอ็นเอที่มีส่วนสำคัญในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ถ้าลูกของคุณไม่ชอบที่จะรับประทานผักสดดิบ คุณแม่อาจนำไปปรุงอาหารในรูปแบบอื่นๆ เช่น ต้ม อบ หรือผัดก็ได้

อัลมอนด์แช่น้ำ พิสตาชิโอ ลูกเกด แอปริคอต และวอลนัท มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมาก เพราะถั่วพวกนี้มีทั้งโปรตีน เกลือแรก และวิตามินสูง และยังอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น โอเมก้า กรดไขมัน สังกะสี และวิตามินอี คุณแม่ควรให้ลูกกินถั่ววันละ 2-3 ครั้งในช่วงเริ่มต้น แต่หากลูกไม่ชอบกินถั่วทั้งเมล็ด คุณแม่อาจลองใส่ถั่วผสมลงไปในอาหารในแต่ละมื้อแทนได้

ไม่ต้องกังวลหากลูกของคุณหิวน้ำตลอดทั้งวัน แต่ต้องแน่ใจว่านอกจากเครื่องดื่ม และน้ำหวานแล้ว ลูกดื่มน้ำเปล่ามากพอ การดื่มน้ำเปล่า 4-5 ลิตรช่วยขับสารพิษออกจากร่างกาย รวมถึงชะล้างโรคต่างๆ ที่เกิดจากเชื้อโรคในร่างกายด้วย ดังนั้นจึงเป็นการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงยิ่งขึ้น น้ำต้มสุกคือตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับลูก หากเป็นไปได้ควรมีกระติกใส่น้ำต้มสุก พกติดกระเป๋าไปด้วยทุกครั้งที่ออกจากบ้าน

พาลูกไปเดินเล่นในสวนสาธารณะให้บ่อยเท่าที่จะเป็นไปได้ ให้เขาถอดรองเท้าวิ่งเล่นบนสนามหญ้าในช่วงเช้าและเย็น อากาศบริสุทธิ์เป็นปัจจัยสำคัญในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง การเดินชมธรรมชาติ ไกวชิงช้า หรือปีนต้นไม้ ทำให้ลูกมีความสุข ผ่อนคลาย และได้ใช้พลังงาน ซึ่งจะทำให้เขาหิวและกินอาหารได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย

วิธีที่กล่าวมาไม่ยากเลยใช่ไหมคะ คุณแม่สามารถเสริมภูมิต้านทานให้ลูกได้ทุกวัน เพียงแค่นำคำแนะนำของเราไปปรับใช้ให้เหมาะกับครอบครัวของคุณค่ะ


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์