10 ข้อควรทำเพื่อความ #STRONG ทางจิตใจของเด็ก

10 ข้อควรทำเพื่อความ #STRONG ทางจิตใจของเด็ก

สืบเนื่องจากโพสต์เมื่อวานเรื่องของคนเราที่วันหนึ่งอาจจะต้องพบกับปัญหา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียน ความรัก การทำงานและการใช้ชีวิต อย่างล่าสุดที่มีข่าวว่าเด็กผู้ชายคนหนึ่งจะกระโดดตึกเนื่องจากเครียดที่ถูกเพื่อนล้อว่าอ้วน

ดังนั้นหมอคิดว่าความเข้มแข็งทางจิตใจเป็นเรื่องสำคัญเดี๋ยวนี้เค้าฮิตติดแทคคำว่Strong หมอว่าเป็นคำที่ดี Strong หมายถึงความเข้มแข็ง-แข็งแร ร่างกายแข็งแรงก็มีความสำคัญ แต่หมอคิดว่าสิ่งที่สำคัญกว่าคือ ความเข้มแข็งทางจิตใจ เพราะจิตใจที่เข้มแข็งจะทำให้มนุษย์สามารถฝ่าฟันปัญหา หรืออุปสรรคต่างๆไปได้

ความเข้มแข็งทางจิตใจ ไม่สามารถสร้างได้เพียงชั่วคืน แต่ต้องเกิดขึ้นจากการปลูกฝังค่อยๆสร้างให้เกิดตั้งแต่เด็กๆ พ่อแม่เป็นคนสำคัญที่ทำให้ความ Strong ทางใจของเด็กมีขึ้นได้

หมอลองรวบรวม10ข้อที่พ่อแม่ควรทำเพื่อ Strong heart-ความเข้มแข็งทางใจของเด็กมีอะไรบ้างลองไปดูกันนะคะ


     
1. ทำให้บ้านมีบรรยากาศที่อบอุ่นและปลอดภัย

จิตใจที่เข้มแข็งต้องมีพื้นฐานจากจิตใจที่รู้สึกได้ถึงความปลอดภัยเป็นพื้นฐาน พ่อแม่ที่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน คนในบ้านไม่ใช้ความรุนแรงต่อกันทั้งทางคำพูดและทางกาย



     
2. มีเวลาคุณภาพ คือเวลาที่พร้อมจะรับฟังเด็กด้วยใจ

ทำให้เด็กมีรู้สึกไว้วางใจ มองโลกในแง่ดี ให้เด็กรู้สึกมีความอบอุ่นมั่นคงทางใจ 



     
3. ไม่ตามใจเด็ก ให้เด็กรู้จักรอคอยให้เป็น

เด็กที่อยากได้อะไรก็ได้ ไม่เคยต้องรอคอยอะไร จะมีความอดทนทางอารมณ์จิตใจต่ำ ถ้ามีอะไรที่ขัดใจหรือไม่เป็นไปอย่างที่คิด เด็กจะหงุดหงิดไม่พอใจมาก บางคนก็ติดไปจนเป็นผู้ใหญ่ที่เอาแต่ใจ มีปัญหาเวลาอยู่กับคนรอบข้าง 



     
4. ฝึกให้เด็กช่วยเหลือและทำอะไรด้วยตัวเอง

เด็กจะรู้สึกว่าตัวเองก็ทำอะไรเองได้ อาจจะลำบากกว่าผู้ใหญ่ทำให้บ้าง ช้ากว่าบ้าง แต่ก็ทำให้เด็กรู้จักพึ่งพาตัวเอง ผู้ใหญ่คงช่วยเหลือเขาไม่ได้ตลอดชีวิต



     
5. ไม่ต้องช่วยเด็กทุกเรื่อง ลองให้คิดแก้ปัญหาเองในเรื่องเล็กๆน้อยๆ

ทักษะการแก้ปัญหา (Problem-solving skill) เป็นเรื่องที่ต้องเรียนรู้ พ่อแม่มากมายที่คอยช่วยแก้ปัญหาให้เด็กทุกเรื่อง เพราะอยากให้ลูกสบาย แต่เมื่อเด็กไม่เคยฝึกด้วยตัวเอง เมื่อเขาต้องเจออุปสรรค เขาจะเกิดความท้อแท้ได้ง่าย



     
6. ชมเชยอย่างเหมาะสม

เวลาที่เด็กทำอะไรได้ การที่มีคนบอกว่าสิ่งที่เขาทำทำให้เกิดอะไรดีๆ เช่น "แม่ชื่นใจจังที่ลูกช่วยแม่เช็ดโต๊ะทำให้แม่เหนื่อยน้อยลง" จะทำให้เด็กรู้สึกภูมิใจ มีกำลังใจ และรู้สึกถึงความมีคุณค่าของตัวเอง (ซึ่งเป็นคุณค่าจากภายใน)



     
7. สอนให้เด็กรู้ว่าอารมณ์ต่างๆเป็นเรื่องธรรมดา (และที่สำคัญกว่าคือ การจัดการกับอารมณ์ให้เหมาะสม)

การรู้จักและรับรู้อารมณ์ตัวเองเป็นเรื่องจำเป็น และเด็กควรต้องยอมรับอารมณ์ที่เกิดขึ้นว่าเป็นธรรมชาติที่คนเราอาจจะมีทั้งดีใจ โกรธ เสียใจ ผิดหวัง และเมื่อยอมรับได้ การจัดการอารมณ์ก็จะเป็นไปอย่างเหมาะสมมากขึ้น
เช่น โกรธได้ แต่ไม่อาละวาด ไม่หงุดหงิดรุนแรง



     
8.ให้เค้ารู้จักผิดหวังบ้าง และยอมรับมัน

บางทีเด็กอาจจะผิดหวัง มีน้ำตา ร้องไห์ พ่อแม่บางคนทนไม่ได้กับน้ำตาของเด็ก ไม่ยอมให้เด็กต้องผิดหวัง ทำให้ยอมไปหมด แต่ความผิดหวังเป็นเรื่องที่ยากจะเลี่ยง ยิ่งโตขึ้น ชีวิตก็มีเรื่องที่ต้องผิดหวัง การที่ให้เด็กสัมผัสความผิดหวังบ้างตอนเด็กๆมีความจำเป็น เหมือนวัคซีนที่สร้างภูมิคุ้มกันให้เด็กมีความเข้มแข็งทางใจ



     
9. ให้เรียนรู้ที่จะรับผิดชอบผลจากการกระทำ

บางครั้งเด็กอาจจะทำอะไรผิดพลาดไป การปล่อยผ่าน จะทำให้เด็กไม่ได้เรียนรู้ เช่น ถ้าเด็กเล่นของเล่นเด็กจะต้องเก็บ มีเด็กคนหนึ่งโกรธพ่อและขว้างของพัง เด็กควรช่วยเก็บกวาดตามความสามารถและอาจจะต้องหักค่าขนมสมทบเป็นคนของที่พังไป



     
10. ยอมรับในความเป็นตัวตนและให้โอกาสเด็ก

ทำผิดก็ต้องให้เด็กเรียนรู้ แต่ผู้ใหญ่ก็ควรให้โอกาสเด็กแก้ตัว ปรับปรุง เด็กจะรู้ว่า ที่ปัญหามีโอกาสมีทางออก เช่นเดียวกับอุปสรรคที่เขาเจอในชีวิต

ที่สำคัญพ่อแม่ควรเป็นแบบอย่างที่ดีให้เด็กด้วย

#หมอมินบานเย็น

เครดิต :
เครดิต : เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์ข่าวสด


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์