ชวนเด็กๆ มาทำ ” ผ้ามัดย้อม ” จากสีของดอกดาวเรือง

ชวนเด็กๆ มาทำ ” ผ้ามัดย้อม ” จากสีของดอกดาวเรือง


ดาวเรือง ดอกไม้ที่คนไทยนิยมปลูกกันในสวนมาตั้งแต่สมัยโบราณ คงเป็นเพราะชื่อที่ไพเราะเป็นมงคลและเพราะสีเหลืองสดใสของดอกดาวเรืองที่ทำให้สวนมีชีวิตชีวา

ชวนเด็กๆ มาทำ ” ผ้ามัดย้อม ” จากสีของดอกดาวเรือง

ภาคเหนือเรียกดอกดาวเรืองว่า ดอกคำปู้จู้ ดาวเรืองปลูกง่ายในดินทุกประเภทแต่ไม่ชอบแฉะเท่านั้น ประโยชน์ของดอกดาวเรือง เราสามารถนำดอกดาวเรืองมาโรยหน้าสลัดใส่ขนมปัง หรือทำชาดอกไม้ ฟาร์มออร์แกนิกบางแห่งนำดอกดาวเรืองไปให้แม่ไก่กินเป็นอาหารเพื่อให้ได้ไข่แดงสีเข้มสวย


นอกจากดาวเรืองจะใช้เป็นอาหารแล้ว เรายังสามารถนำไปย้อมผ้าได้อีกด้วย สมาชิกทุกคนในบ้านสามารถมีส่วนร่วมในการย้อมผ้า เด็กเล็ก ๆ ใช้มือน้อย ๆ เก็บดอกดาวเรืองจากต้นแล้วดึงกลีบออกจากกัน คุณแม่เตรียมนึ่งดอกดาวเรืองและต้มน้ำย้อมให้พวกเขา



ชวนเด็กๆ มาทำ ” ผ้ามัดย้อม ” จากสีของดอกดาวเรือง

ชวนเด็ก ๆ เก็บก้อนกรวดก้อนหินมามัดกับผ้า เด็กโตอาจตื่นเต้นกับการมัดย้อมด้วยอุปกรณ์ที่หลากหลาย เช่น ไม้ไอศกรีม เชือกฟาง ไม้หนีบผ้าไม้บล็อกรูปทรงต่าง ๆ เช่น สามเหลี่ยม สี่เหลี่ยม ซึ่งเด็ก ๆ สามารถหนีบให้เกิดลวดลายต่าง ๆ

เด็ก ๆ ได้เรียนรู้วิธีการใส่ผ้าลงในหม้อย้อมอย่างไรไม่ให้น้ำร้อนกระเด็นโดน ได้เรียนรู้ว่าสารส้มทำให้ผ้ามีสีเหลืองเข้มขึ้น เรียนรู้ว่าการมัดย้อมเป็นการป้องกันไม่ให้ส่วนที่มัดไว้โดนสี และเหนือสิ่งอื่นใด เด็กเกิดความอัศจรรย์ใจกับลวดลายสวยงามที่เกิดขึ้นบนผืนผ้าของพวกเขา

สำหรับเด็กโต คุณพ่อคุณแม่อาจต่อยอดความสนใจด้วยการหาลวดลายมัดย้อมต่าง ๆ มาให้เด็ก ๆ ดู เพื่อให้เกิดเป็นแรงบันดาลใจและชวนกันหาใบไม้ดอกไม้ในสวนมาย้อมผ้ากันเช่น ใบมะม่วง ใบขี้เหล็ก หรือดอกกรรณิการ์ เป็นต้น


ชวนเด็กๆ มาทำ ” ผ้ามัดย้อม ” จากสีของดอกดาวเรือง

วิธีการย้อมผ้า

1. เตรียมผ้าที่จะใช้ย้อม หากเป็นผ้าใหม่ควรซักให้หมดแป้งก่อน
2. ชวนเด็ก ๆ เด็ดดอกดาวเรืองในขณะที่ดอกดาวเรืองยังบานไม่เต็มที่
3. ดึงกลีบดาวเรืองออกจากขั้วดอก โดยใช้มือจับขั้วดอกไว้แล้วดึงกลีบทั้งหมดออกในครั้งเดียว
4. นำดอกดาวเรืองไปนึ่งและต้มต่ออีกประมาณ 45 นาที
5. กรองกลีบดาวเรืองออก
6. ระหว่างนั้นทำมัดย้อม โดยใช้ผ้าหุ้มก้อนกรวดที่ผ่านการล้างสะอาดแล้ว มัดด้วยยาง เด็ก ๆสามารถเดินเลือก้อนกรวดก้อนหินจากสวนในบ้าน
7. หย่อนผ้าลงในหม้อย้อม ต้มผ้าประมาณ 30 นาที
8. คีบผ้าขึ้นมา แล้วบิดน้ำออกจากผ้า
9. นำผ้าไปแช่ในกะละมังที่มีส่วนผสมของน้ำ : สารส้ม : เกลือ (100 : 1 : 1 ส่วน)
10. แกะยางออก
11. บิดผ้าให้หมาดแล้วนำไปตากแดดให้แห้ง
12. ซักด้วยน้ำเปล่า

ขอบคุณ : baanlaesuan

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
ตามข่าวteenee.com จาก LineToday เข้าไปคลิ๊กกดติดตามได้เลย
กระทู้เด็ดน่าแชร์